เดนคุก เมาหนัก! พ้นโทษไม่ถึงปี นั่งดื่มเหล้าขาวร้านชำ เมาได้ที่หาเรื่องเจ้าของร้านฟัดกันน่วมอาบเลือด แต่กลับไม่พอใจพ่อบังเกิดเกล้า เข้าห้ามปรามและเคลียร์ปัญหาให้ พยายามใช้มีดแทงพ่อ ก่อนที่ อส. คนดี จะเข้าห้ามกลับถูกแทงเสียเอง รีบคว้าปืนประจำกายยิงสวนทำมือมีดเจ็บ ส่วนตัวเองถูกแทงดับ พลิกแฟ้มสยองเคยฆ่ามาแล้ว 2 ศพตั้งแต่เป็นเยาวชน ลั่นขอติดคุกบางขวาง
เดนคุก : เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 66 ร.ต.อ.เดชา รามจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 6/16 หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง บริเวณริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการ อ.หาดสำราญ ห่างกับ สภ.หาดสำราญเพียงแค่ 400 เมตร หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุประวิณ สมบัติศิริ ผกก. พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ร.ต.อ.ปณตพร ผลบุญ รอง สว.สส. กำลังชุดสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง
ถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดสำราญ เพื่อพยายามยื้อชีวิต ตรวจสอบบนพื้นดิน พื้นปูน รวมทั้งบนเก้าอี้ หน้าร้านค้าดังกล่าว พบกองเลือดจำนวนมากเจิ่งนองอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี ตามบัตรประชาชนอยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 6 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็น สมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส. อ.หาดสำราญ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดพกเข้าที่เหนือสีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 4 แผล
ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือย้อย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 6 ต.หาดสำราญ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุแทงนายเขียน ได้รับบาดเจ็บ มีอาการรู้สึกตัวดี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่เหนือสะบักหลังซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บรู้สึกตัว แต่ได้ถูกนำตัว ส่ง รพ.ตรังเพื่อทำการช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือนายเหมือน คชเวช อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีบาดแผลที่หน้าผาก และที่แขน
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่าบนพื้นดินที่ปนอยู่กับกองเลือดพบซองหนังใส่อาวุธปืนตกอยู่ 1 ซอง ไฟแช็ค 1 อัน รองเท้าทั้งของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตตกอยู่ 2 คู่ กุญแจรถและเงินของผู้เสียชีวิตตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ขึ้นไปเหนือพื้นดิน ซึ่งเป็นพื้นปูนหน้าร้านพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 หัว อาวุธมีดพกพับด้ามซึ่งเป็นของผู้ก่อเหตุจำนวน 1 เล่มตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และทั้งนี้ยังคงพบขวดสุราตกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 1 ขวด ใกล้กันพบขวดแก้วสภาพแตกอีกจำนวน 1 ขวด ถัดออกไปบนถนนพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ-เทา ทะเบียน ขธร 155 ตรัง ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่
จากการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันมือมีดได้ดื่มเหล้าขาวมาจากที่อื่นก่อนแล้ว ก่อนจะขับรถ จยย. มานั่งดื่มเหล้าขาวต่อเพียงคนเดียวที่ร้านดังกล่าว แต่บังเอิญมาพบเจอคนรู้จัก ก็ได้นั่งร่วมวงด้วยกัน 2 คน ซึ่งทางมือมีดได้มานั่งที่ร้านค้าแห่งนี้เพียงครั้งแรก และเมาเต็มที่ ก่อนที่นายเหมือน (ผู้บาดเจ็บ) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเข้ากลับมา จึงเห็นว่ามือมีดเมาหนักพูดจาเสียงดังและเอะอะโวยวาย จึงได้ห้ามปรามให้เบาอารมณ์และเสียงลง ก่อนที่นายเหมือนจะไปนอนที่เปลหน้าบ้าน ทำให้มือมีดไม่พอใจเข้าไปกระชากนายเหมือนจากเปล ก่อนจะมีการต่อยและต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกัน จนทำให้นายเหมือนบาดเจ็บ ส่วนมือมีดได้ไปชนเข้ากับเสาจนทำให้ศีรษะแตก และคิดว่าภรรยาของนายเหมือนเข้ามาตีศีรษะ จึงพยายามจะมีปัญหากับภรรยานายเหมือนอีกคน
ก่อนที่นายเขียน (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) และคนอื่นๆ เดินเข้ามาห้ามปราม จนมือมีดได้ออกกลับบ้านและไปยัง สภ.หาดสำราญ เพื่อขอแจ้งความ ส่วนนายเหมือน ก็ได้ไปแจ้งความด้วยเช่นกันที่ถูกทำร้าย แต่ปรากฏว่าทางตำรวจยังคงไม่แจ้งความ โดยหวังว่าทั้งคู่น่าจะเคลียร์กันได้ และทั้งคู่ได้แยกย้ายออกจากโรงพัก ก่อนที่นายเหมือนและภรรยาหวาดกลัวได้หนีออกไปจากร้าน กระทั่งมืดมีดได้เข้ากลับมาที่ร้านอีกรอบ พร้อมกับถือขวานมาด้วย
แต่ปรากฏว่านายเหมือนและภรรยาไม่อยู่แล้ว มีเพียงนายเขียน (ผู้เสียชีวิต) และนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) นั่งอยู่เพื่อจะพูดคุยเคลียร์ปัญหาให้กับมือมีด ก่อนจะช่วยกันแย่งขวานออกมาจากมือได้ ทำให้มือมีดอาละวาดอย่างหนักทำลายข้าวของภายในร้าน ซึ่งนายสมพร (ผู้เป็นพ่อ) ได้เข้าไปห้ามปราม แต่มืดมีดกลับไม่พอใจ และหาว่าพ่อจุ้นจ้าน พยายามใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวทำร้ายพ่อ ทำให้นายเขียน (ผู้เสียชีวิต) เข้าห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายพ่อ ก่อนที่มืดมีดจะแทงนายเขียน ส่วนนายเขียนได้ใช้อาวุธปืนประจำกายที่พกติดตัวยิงสวนเข้าไป ก่อนทั้งคู่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จนเป็นเหตุให้นายเขียนเสียชีวิต
สอบถามนายอนันธวัฒน์ คชเวช อายุ 20 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน เล่าว่า คนก่อเหตุพูดตอนที่ศีรษะแตกว่าไม่เคยมีใครทำให้หัวแตกมาก่อน และหากไม่ติดคุกบางขวางไม่ยอมแน่ครั้งนี้ โดยกลับไปๆ มาๆ บ้านและร้านค้าหลายรอบ
นายพัชรพล คล้ายผดุงศักดิ์ อายุ 18 ปี บุตรบุญธรรมผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม พ่อเข้าไปห้ามปราม กลับมาถูกแทงเสียชีวิต รู้สึกเสียใจช่วยพ่อไม่ได้ หลังจากจบ ม.6 ก็จะไปสอบเรียนแพทย์ เพราะเห็นตอนพ่อกำลังจะสิ้นใจ อยากจะช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเองเคยฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษออกมาก็ยังไม่สำนึกยังมีนิสัยเดิมอยู่ ก็ก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้กฎหมายมีความเข้มแข็งกว่านี้
จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่านายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือย้อย ผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุและต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาในปี พ.ศ.2555 ได้ก่อเหตุต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งทั้ง 2 คดีเกิดขึ้นในพื้นที่ของ สภ.หาดสำราญ จนกระทั่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ และพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 โดยที่ยังไม่ทันได้ครบหนึ่งปีจนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และจะทำการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุว่ามีการยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามขบวนการกฏหมาย ส่วนศพได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: