พะยูนตาย เกยหาดสำราญเป็นตัวที่ 2 ในรอบ 2 เดือน นายอำเภอได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพะยูนตายถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดแหลมลูกไม้เร่งประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์
วันที่ 20 สิงหาคม 2566 เวลา 15.00 น. ที่ชายหาดแหลมลูกไม้ นางจริยา ปุ้ยพล อายุ 45 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 210/1 ม.12 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ผู้พบซากพะยูนเป็นคนแรก (ผู้หญิงเสื้อแดง คลิปสัมภาษณ์) เล่าผู้สื่อข่าวว่า เวลา 12.00 น. ตนเองกำลังเดินอยู่บริเวณชาดหาดแหลมลูกไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร ก็เห็นคล้ายโลมา หรือพะยูน ถูกคลื่นซัดกลิ้งไปมา เพื่อความแน่ใจก็เลยเดินไปดูใกล้ๆ ก็เลยเป็นพะยูน ก็ได้กลับมาแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประสานแจ้งนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ
ต่อมานายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง จังหวัดตรัง เดินทางมาพลิกซากพะยูนตัวดังกล่าว จากการเก็บข้อมูลของเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าเป็นพะยูน เพศผู้ มีความยาว 2 เมตร 42 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 250 กิโลเมตร อายุประมาณ 20 ปี ตายมาแล้วไม่เกิน 24 ชม. บริเวณลำตัวไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ หรือร่องรอยถูกทำร้ายหรือติดอวนแต่อย่างใด เจอร่องรอบการต่อสู้ระหว่างพะยูนตัวผู้ด้วยกันเพราะมีรอบเคี้ยวครูดบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมฝูงของพะยูน และอาจมีการบาดเจ็บ ร่างกายอ่อนแอ
ผนวกกับช่วงนี้มีมรสุมคลื่นลมแรงพัดพาพะยูนจนหลงฝูง อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พะยูนตาย และถูกคลื่นซัดมาจากแหลมจูโหย ของเกาะลิบง มาเกยชายหาดแหลมลูกไม้ในครั้งนี้ นับเป็นพะยูนตัวที่ 2 ที่ตายมาเกยหาดที่อำเภอหาดสำราญ ทางด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง จังหวัดตรัง เมื่อเก็บรายละเอียดเบื้องต้นเสร็จแล้วก็จะนำซากพะยูนตัวดังกล่าวไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทางด้านนายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ตนเองก็ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านว่ามีพะยูนตายเกยชายหาด ใกล้คลองดาร์ตู แหลมตะเสะ หมู่ที่ 10 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ ซึ่งพะยูนที่ตายมาจากแนวเกาะลิบง ถูกลงพายุซัดมาฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นหาดสำราญ ซึ่งเป็นพะยูนเพศผู้เช่นกัน อายุ ประมาณ 20 ปี ความยาว 2 เมตร 50 เซนติเมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ เช่นกัน ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใดหลังจากมีการผ่าพิสูจน์ซากแล้วพบว่าเกิดจากการป่วยตายตามธรรมชาติ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชำแหละพิสูจน์ซากเสร็จก็ทำการฝังกลบที่เกิดเหตุ เนื่องจากสภาพเน่าเปื่อย ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงทำการฝักกลบใกล้ที่พบเจอ และในวันนี้ (20 สิงหาคม 2566)ก็ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบพะยูนตายมาเกยที่ชายหาดแหลมลูกไม้ เมื่อมาดูก็พบว่าเป็นพะยูน เพศผู้ ก็ได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่มาเคลื่อนย้ายไปพิสูจน์ซาก เบื้องต้นไม่พบร่อบรอยการถูกทำร้ายหรือการติดอวนประมงแต่อย่างใด คาดตายจากทะเลแนวเกาะลิบงซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของพะยูนที่มีหญ้าทะเลเป็นแหล่งอาหาร แต่ในพื้นที่หาดสำราญ ไม่พบการอยู่อาศัยของพะยูน ไม่มีแหล่งหญ้าทะเล ให้พะยูนมาหากิน.
