ตรัง ชาวบ้านสร้างเงินแสนเงินล้านจากการดำน้ำเก็บสาหร่ายขนนก ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามแนวป่าโกงกางบนพื้นที่ กว่า 200 ไร่ นับได้ว่าเป็นป่าโกงกางที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด
สาหร่ายขนนก วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่เรือปากคลองบ้านควนล้อน หมู่ที่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปกับนายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ ไปดูชาวบ้านดำน้ำเก็บสาหร่ายขนนกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามแนวป่าโกงกางบนพื้นที่ กว่า 200 ไร่ นับได้ว่าเป็นป่าโกงกางที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งอำเภอหาดสำราญ เป็นอำเภอเดียวของจังหวัดตรัง ที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นอำเภอเดียวที่มีอากาศดีที่สุดของจังหวัด
ส่งผลให้สิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบนิเวศทางทะเล อุดมสมบูรณ์ไปด้วย สงผลให้ สาหร่ายขนนก เจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของอาชีพดำน้ำเก็บสาหร่ายขาย ซึ่งสร้างรายได้หลักแสน หลักล้านต่อครอบครัวต่อปี ซึ่งสาหร่ายขนนกสามารถเก็บเกี่ยวได้ 8 เดือน ตั้งแต่ ช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึงเดือนมิถุนายน ของทุกปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝนฟ้าอากาศด้วยหากปีไหนฝนตกเยอะก็เก็บสาหร่ายได้ 6 เดือนเท่านั้น
ในการออไปดำน้ำเก็บสาหร่ายชาวบ้านจะใช้เรือพลีส (เรือท้องแบนขนาดเล็กหัวเรือเรียวแหลม)เป็นพาหนะในการเดินทางไปดำน้ำเก็บสาหร่ายที่งอกขึ้นมาใหม่ ห่างออกไปจากท่าเรือแล่นออกประมาณ 3 กม.ก็สามารถลงไปดำน้ำเก็บสาหร่ายได้แล้วระดับน้ำจะลึกอยู่ที่ 1-3 เมตร ในการเก็บสาหร่ายแต่ละครั้งจะใช้คนเพียง 2 คน ต่อหนึ่งลำเรือ คนหนึ่งจะเป็นคนลงไปดำน้ำและอีกคนจะนั่งอยู่บนเรือเพื่อเลือกเศษพืชน้ำ เศษไม้ออก ส่วนคนที่ลงไปดำก็จะใช้หน้ากากดำน้ำ และให้มือเปล่าสองข้างก็สามารถเก็บสาหร่ายขึ้นมาได้แล้ว วิธีการเก็บสาหร่ายก็จะหงายฝ่ามือขึ้นก่อนจะช้อนสาหร่ายขึ้นมาจากพื้นโคลนและนำมาล้างเขย่า ๆ ให้โคลนตมที่ติดขึ้นมาออกให้สะอาด
เพราะสาหร่ายขนนกจะขึ้นงอกงามในพื้นดินโคลนตามแนวป่าโกงกาง และสาหร่ายขนนกจะโผล่ขึ้นมาจากโคลนมาเพียง 5 ซม. อีกครึ่งหนึ่งจะฝังอยู่ในโคลนดังนั้นการใช้ฝ่ามือเสียบในแนวขนานกับพื้นก็จะทำให้ได้สาหร่ายขึ้นมาได้นั้นเอง ในแต่ละวันชาวบ้านจะให้เวลาออกไปเก็บสาหร่ายกัน 3 ชั่วโมงก็จะได้สาหร่ายเต็มลำเรือหรือประมาณ 40-60 กิโลกรัมต่อ 1 ลำเรือ แล้วก็จะมุ่งหน้าเข้าหาฝั่งเพื่อที่จะนำสาหร่ายมาล้างในคลองน้ำเค็มที่ท่าเรืออีกครั้ง ก่อนที่จะบรรจุลงในตะกร้าที่มีความจุ 40 กิโลกรัม ก่อนจะนำมาขายส่งให้กับแม่ค้าซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่รอซื้อที่ท่าเรือดังกล่าว โดยซื้อขายส่งกันในราคากิโลกรัมละ 35 บาท สร้างรายได้ลำละไม่ต่ำกว่า 1,400- 3,000 บาทต่อวัน ส่วนแม่ค้าที่รับซื้อก็จะส่งไปแม่ค้าในตลาดสดทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 80-100 บาทเลยทีเดียว
สำหรับผู้บริโภคนิยมซื้อสาหร่ายขนนก ไปรับประทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด น้ำพริกกะปิ หรือดัดแปลงเป็นเมนูเพื่อสุขภาพต่างๆ ได้ สาหร่ายขนนกจะมีวิตามินมากมาย ทั้งวิตามินเอ, บี, ซี, อี และเค ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการเหน็บชา บำรุงผิวพรรณ มีไอโอดีน ช่วยป้องกันโรคคอพอก และมีกรดอะมิโนหลายชนิดที่ไม่พบในพืชบนบก มีคลอโรฟิลล์สูง สามารถยับยังเซลส์มะเร็งได้
นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ กล่าวว่า สาหร่ายขนนกเป็นพืชน้ำที่บ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และน้ำมีความสะอาด อำเภอหาดสำราญจะพบสาหร่ายจำนวนมาก ชาบ้านจะมาดำน้ำเก็บสาหร่ายเพื่อส่งขายให้กับแม่ค้าที่มารอซื้อโดยจะซื้อขายกันในราคา 35 บาท ก็สามารถสร้างรายได้เป็นหมื่น เป็นแสน และคนที่ขยันสามารถทำรายได้มากถึง หนึ่งล้านบาทเลยทีเดียว และทางอำเภอหาดสำราญก็จะส่งเสริมเผยแพร่สาหร่ายขนนกด้วยการนำไปออกร้านตามงานต่าง ๆ ด้วยการทำเป็นสาหร่ายพร้อมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด
นาย ประเสริฐ แก้วชู อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 หมู่ 9 ต.หาดสำราญ จ.ตรัง หนึ่งในผู้ที่หันมาประกอบอาชีพดำน้ำเก็บสาหร่ายหลังจากการทำสวนและงานรับเหมา ก็จะมาดำน้ำเก็บสาหร่าย กล่าวว่า ตนเองจะมาดำน้ำเก็บสาหร่าย เพื่อส่งขายเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ แต่ละวันจะดำน้ำเก็บสาหร่ายได้ 40 กิโลกรัม และสาหร่ายขนนกเมื่อเก็บไปแล้วก็จะมีการงอกใหม่ ตนเองและชาวบ้านจะเก็บและเลือกสาหร่ายก่อนกลับเข้าฝั่งเศษสาหร่ายจากการเลือกก็จะหลุดลอยไปงอกใหม่เป็นการเพิ่มปริมาณสาหร่ายไปอีกทางหนึ่งด้วย.
นางฉลวยศรี มากแก้ว อายุ 50 ปี แม่ค้ารับซื้อสาหร่ายในอำเภอหาดนำราญ จ.ตรังกล่าวว่า ตนรับซื้อสาหร่ายมานานถึง 26 ปี แล้วหรือตกวันละกว่า 400 กิโลกรัมหรือ วันละ 12,000-13,000 บาท ส่งขายทั้งใน จ.ตรัง กระบี่ และสตูล ราคากิโลกรัมละ 45 บาท ปีนี้สาหร่ายเยอะมากมีชาวบ้านออกไปหากันประมาณ 15 ลำ ส่วนตนมีรายได้จากการรับซื้อและขายสาหร่ายนับแสนบาทต่อครอบครัว รวมทั้งหมู่บ้านสร้างรายได้กว่า 4-5 ล้านบาทปี หรือใครสนใจก็จะติดต่อสั่งซื้อได้ที่ 085 802 7837 ฉลวยศรี สาหร่ายขนนกหาดสำราญ
