สองผัวเมียขับรถจักรยานยนต์ กำลังจะไปกรีดยางพารา ถูกสายสื่อสารห้อยกลางถนน เกี่ยวคอผู้เป็นสามีคอหวิดขาด ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 2 วัน โชคดีเป็นคนขับรถไม่เร็ว ยังไร้เงาบริษัทฯเจ้าของสายสื่อสารค่ายดังเข้ามาแสดงความรับผิดชอบ เจ้าตัวเผยยังหวาดกลัวทุกวินาทีขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
สายสื่อสาร วันนี้ 10 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากล้องวงจรปิดของชาวบ้านสามารถบันทึกภาพนาทีขณะ นายกิติศักดิ์ ปานเต้ง อายุ 37 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กด 870 ตรัง โดยมี นางอนงค์ลักษ์ ชุมศรี อายุ 30 ปี ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเป็นภรรยานั่งซ้อนท้าย กำลังขับขี่อยู่บนถนนสายบางแป้น-หลังเขา หมู่ 9 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อที่จะไปกรีดยางพาราที่สวนซึ่งอยู่ห่างไปอีกประมาณ 4-5 กิโลเมตร แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในความเร็วประมาณ 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สายสื่อสาร ซึ่งห้อยลงมาอยู่กลางถนน ความสูงจากพื้นถนนระดับประมาณสะเอว โดยไม่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล และเป็นเวลากลางคืนมันมืด ได้เกี่ยวเข้าที่คอของนายกิติศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำให้รถเกิดเสียหลักแฉลบไปอีกเลนของถนน และนายกิติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอ แต่โชคดีที่รถไม่ได้ล้มลงแต่อย่างใด ประกอบกับมีเสียงร้องและเสียงกรีดของทั้งคู่ตามมา ภายหลังจากได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.43 น. วันที่ 3 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นายกิติศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ภายหลังจากแพทย์ได้ให้ออกมารักษาตัวและพักฟื้นที่บ้าน เจ้าตัวได้เปิดให้ดูบาดแผลจากการถูกสื่อสารเกี่ยวเป็นบาดแผลบาดลึก แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมาถึง 10 วันแล้ว เจ้าตัวยังคงมีความเจ็บปวดทั้งภายในและภายนอกบริเวณลำคอ รวมไปถึงบาดแผลยังคงมีเลือดไหลซิบไหลซึมออกมา พร้อมกับได้นำรถคันที่ประสบเหตุมาให้ผู้สื่อข่าวดูพบว่าบริเวณกรอบรถเหนือไฟหน้าแตกเสียหาย และเสื้อยืดสีแดงซึ่งใส่ในวันประสบเหตุ ได้ถูกสายสื่อสารฟาดจนเสื้อขาดและมีรอยของฉนวนสายสื่อสารติดเป็นคราบสีดำ โดยที่ทั้งคู่สองสามีภรรยายังตกใจและขวัญผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายกิติศักดิ์ ปานเต้ง ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ปกติถนนสายดังกล่าวตนใช้ขับสัญจรไปกลับกรีดยางพาราอยู่ในทุกคืน คืนเกิดเหตุกำลังไปกรีดยางพารา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมองไม่เห็นเลยว่ามีสายสื่อสารห้อยลงมาขวางอยู่บนถนน ทำให้สายได้ฟาดเข้ากับตัวรถเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะมาฟาดและเกี่ยววินเข้าที่ลำคอของตนทันที ทำให้รถตนเสียหลักข้ามเลนไป ความรู้สึกตอนนั้นเลยรู้สึกว่ามีเลือดไหลอยู่ที่ลำคอ เจ็บแสบ และหายใจไม่ค่อยออก เมื่อเอามือจับก็มีเลือดจริงๆ หลังจากนั้นก็ได้มีญาติมารับไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการรักษาและให้นอนรักษาที่โรงพยาบาลจำนวน 2 คืน อาการโดยรวมก็มีบวมบริเวณลำคอและหลอดลมด้านใน มีบาดแผลลึกจำนวน 2 เส้น วันแรกแพทย์สั่งให้งดอาหาร ประกอบกับมีการอักเสบ และตนกลืนลำบาก
ข่าวน่าสนใจ:
หลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปสืบเสาะจนทราบว่าสายดังกล่าวเป็นสายสื่อสารค่ายดังรายหนึ่ง ที่ลากเข้าไปที่บ้านของชาวบ้านบริเวณดังกล่าว จนรุ่งเช้าหลังจากเกิดเหตุแล้วก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทอินเตอร์ดังกล่าวมาซ่อมแซมสายที่ขาดภายหลังจากห้อยและเกี่ยวคอตนเข้าแล้ว หลังจากเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออก หรือเข้ามาเพื่อดูแลเยียวยาแม้แต่คนเดียว ตนจึงได้ให้ภรรยาไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เขาวิเศษ ไว้แล้วในรุ่งเช้าหลังจากเกิดเหตุ
อยากให้บริษัทฯเข้ามาดูแลรับผิดชอบ เยียวยา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเป็นรายต่อไป ไม่ว่ากับใครก็ตาม มันน่ากลัวมาก ความรู้สึกตอนนั้นและตอนนี้หวาดกลัวมาก ทุกวันนี้ขับรถไปกรีดยางพารายังต้องใช้ไฟฉายคาดศีรษะส่องดูบนถนนตลอด เพราะกลัวว่าจะมีสายห้อยลงมาอีก และทุก ๆ คืนยังต้องให้ลูกชายมานอนใกล้ๆเพราะหวาดกลัวหากตนขับความเร็วสูงกว่านี้คงจะคอขาดเสียชีวิตไปแล้ว
ขณะที่ นางอนงค์ลักษ์ ชุมศรี ภรรยา ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตกใจมากเลย ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีถูกอะไรเกี่ยวคอ สามีและตนก็ร้องดังขึ้น ความรู้สึกวูบเหมือนจะเป็นลมด้วยความตกใจ ตอนนี้ขับรถกลางคืนก็ยังหวาดผวา อยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานและบริษัทที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลให้ดีกว่านี้ในเรื่องของสายสัญญาณต่างๆ การรับผิดชอบเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วก็อยากให้ออกมารับผิดชอบ เพราะก็รู้กันอยู่ว่าเป็นสายของบริษัทไหน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: