ตรัง โหดเหี้ยม หนุ่มชาวสวน ถูกดักยิงดับขณะขับ จยย.กลับจากกรีดยางพารา ก่อนลงมือจุดไฟเผาร่างไหม้เกรียมทั้งคนทั้งรถ แถมยิงภรรยาที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย ดับสลดคู่ผัวเมียคาภูเขา 2 ศพ ตำรวจรวบตัวได้ภายใน 3 ชั่วโมง เปิดปากรับสารภาพโกรธแค้นถูกผู้ตายด่าต่อว่า
เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันนี้ 15 ม.ค.67 ร.ต.อ.อมร วัดโคก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆ่าตายบนภูเขาบ้านหินงอม พื้นที่หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง ตำรวจกองปราบปราม กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง
ที่เกิดเหตุต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาสูงชัน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทางเดินและทางสำหรับขับรถ จยย. โดยพบศพนายนิติกร อายุ 39 ปี อยู่หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง สภาพศพนอนหงายหน้าถูกเผาไหม้เกรียมอยู่ในกองเพลิง โดยมีรถ จยย.สภาพถูกเผาไหม้ทั้งคัน ฝาถังน้ำมันเปิดทิ้งอยู่ และกระสอบยางก้อนทับบนร่างอยู่ พลิกศพยังพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเข้าที่บริเวณไหล่ขวา จำนวน 1 แผล
ถัดออกไปประมาณ 5 เมตรยังพบศพของภรรยา ทราบชื่อคือ น.ส.ชนัญธิตา อายุ 40 ปี ที่อยู่ถนนเวฬุวัน ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา สภาพนอนตะแคงซ้าย สวมเสือยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณลำคอ จำนวน 1 แผล โดยในที่เกิดเหตุยังพบหนอนรองกระสุนปืนตกอยู่ 1 ชิ้น และเศษหัวกระสุนลูกปรายตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และห่างจากจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงจากภูเขายังพบเหล็กคันเบรกเท้ารถ จยย. หักตกอยู่ในพงหญ้า ซึ่งคาดว่าเป็นของรถผู้ก่อเหตุ จำนวน 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน
ต่อมาประมาณ 3 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปควบคุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือนายการิน หรือเดียว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง (สวมเสื้อสีดำ) และนายสิทธิกร หรือพวย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ หมู่ 6 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง (สวมเสื้อสีครีม) โดยทั้งคู่รับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง ก่อนจะนำไปชี้จุดและตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนลูกซองยาว บรรจุยิงได้ครั้งละ 1 นัด ซึ่งผู้ก่อเหตุได้นำมาซ่อนไว้ในพงหญ้าบนภูเขา ถัดจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 300 – 400 เมตร ก่อนจะควบคุมตัวทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติผู้เสียชีวิตยืนคอยดู พร้อมกับส่งเสียงด่าประณาม
ข่าวน่าสนใจ:
- ‼️คุมเข้มทุกตารางนิ้ว-หลัง ผกร.เหิมหนัก บึ้ม จนท.
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
- จัดหนัก-โจรใต้บึ้ม 2 อำเภอ ก่อนปะทะเดือด
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
ซึ่งนายสิทธิกร จันมัด หรือพวย ผู้ต้องหาให้การว่า รู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากมีสวนอยู่ใกล้กัน สาเหตุที่ได้ลงมือฆ่า เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ไปฟันทางต้นปาล์มน้ำมันในสวนของนายนิติกร จนทำให้นายนิติกร ไม่พอใจมาด่าและต่อว่า จนทะเลาะวิวาทกัน ประกอบกับมีปัญหาจุกจิกระหองระแหงกันมาตลอด เมื่อผู้ตายขึ้นมากรีดยางพาราก็เจอกันจนทะเลาะกันบ่อย ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นมาไม่ถึงปี ซึ่งมูลเหตุอื่นๆ ก็ไม่มีอะไร
ก่อนที่จะชวนเพื่อนคือนายการิน บุญแก้วสุทธิ์ หรือเดี่ยว มาลงมือก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้าจะลงมือนั้นตนก็กรีดยางพาราอยู่ และเห็นว่าผู้ตายก็กรีดยางพาราอยู่ ส่วนตนกรีดไม่ทันเสร็จ จึงซ้อนท้ายรถ จยย. โดยเพื่อนเป็นคนขับ และจอดทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุ โดยเพื่อนยืนอยู่ที่รถ ส่วนตนได้ขึ้นไปนั่งซุ่มกับบังต้นไม้ใหญ่ อยู่บนเนินซึ่งอยู่สูงติดกับถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยรู้ว่าคนตายกรีดยางเสร็จแล้วจะขับรถกลับทางนี้ เมื่อคนตายขับมาถึงโดยมีภรรยานั่งซ้อนท้ายตนจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงเข้าไปที่นายนิติกรก่อน 1 นัด จนรถล้มลง และภรรยาก็ล้มลง ส่วนเพื่อนก็เดินตามมาหาตน
ต่อมาตนก็ได้สั่งให้ภรรยาผู้ตายนอนลงกับพื้น ส่วนตนก็ยิงซ้ำเข้าที่นายนิติกรอีก 1 นัด และหยิบอาวุธปืนลูกซองพกสั้นของนายนิติกรที่พกติดตัวอยู่ยื่นให้เพื่อนถือ ก่อนจะเปิดฝาถังน้ำมันรถ จยย.ของผู้ตายและใช้ไฟแช็คจุดไฟจนไฟลุกไหม้รถจยย.และไหม้ร่างของนายนิติกร ต่อมาจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงภรรยาจำนวน 1 นัด โดยตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยิงภรรยาผู้ตาย แต่ต้องฆ่าเพราะเห็นเหตุการณ์แล้ว ต่อมาเพื่อนได้เดินไปเอารถ จยย. แต่ในระหว่างที่เดินผ่านภรรยาผู้ตายเห็นว่าภรรยายังไม่เสียชีวิต โดยกำลังคลานและกำขวานอยู่ในมือ เพื่อนคือนายการิน บุญแก้วสุทธิ์ หรือเดี่ยว จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้น ที่เป็นของผู้ตายยิงใส่ภรรยาอีก 1 นัดจนเสียชีวิต และขับรถไปซ่อนปืนก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไปอยู่ที่บ้าน และบอกกับพ่อแม่ว่าได้ลงมือยิงคนแล้ว
ขณะที่นางกณิการ์ ดำรอด อายุ 46 ปี พี่สาวนายนิติกร (ผู้ตาย) บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าน้องชายเคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ ส่วนปัญหาอื่นๆน้องชายไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนน้องชายก็ไม่เคยบอกเล่าอะไรให้ฟัง เป็นคนชอบทำงาน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร โดยปกติน้องชายก็มากรีดยางพาราทุกวันในช่วงค่ำ และกรีดเสร็จช่วงเช้าก็กลับบ้าน ส่วนภรรยาของเขาจะไม่ค่อยมาด้วย ส่วนใหญ่น้องชายจะมาเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้ได้นำภรรยามาด้วย โดยไม่น่าจะทำกันได้ถึงขนาดนี้ ต่างคนก็ต่างมีพ่อแม่มีลูกมีเมีย น่าจะมีความรู้สึกสูญเสียบ้างว่าเป็นยังไง ก็อยากขอคัดค้านไม่ให้ประกันตัว ให้ไปรับโทษตามกฎหมายทั้งคู่
เบื้องต้นสำหรับร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันแบกหามลงมายังพื้นล่าง พร้อมกับรถ จยย.คันที่ถูกเผา ก่อนจะนำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนผู้ต้องหาได้นำไปสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน และเตรียมนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนประวัติของนายสิทธิกร จันมัด หรือพวย ผู้ต้องหาทราบว่าเคยต้องคดีอาญามาแล้วเช่นเดียวกัน.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: