X
ศาลตัดสินประหาร,คุกตลอดชีวิต, ผู้กำกับฆ่า, รุมฆ่าโจ๋, ฆ่าวัยรุ่นตรัง,

ศาลตัดสินประหาร-คุกตลอดชีวิต ผกก.และพวก รุมฆ่าโจ๋ บนสะพานคลองลำภูรา

ศาลชั้นต้นตัดสินคดี ผกก.ยะลา พร้อมพวกรวม 6 คน รุมซ้อมและยิงโจ๋สงขลาวัย 17 ปี จนเสียชีวิต ก่อนอำพรางศพโยนทิ้งคลองหลังวัดใน จ.ตรัง โดยตัดสินให้ประหารชีวิต และจำคุกตลอดชีวิต

วันนี้ (19 ธ.ค.61) ที่ศาลจังหวัดตรัง ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ ด.ต.อนันต์ จันทร์คง สังกัด บก.ภ.จว.สงขลา จำเลยที่ 1 ด.ต.ชัยธวัช หรือสายัญ กิตติเวชวรกุล สังกัด บก.ภ.จว.ตรัง จำเลยที่ 2 นายศักดิ์นรินทร์ หรือโอ อ่อนช่วย จำเลยที่ 3 นายวิชาญ หนูสีคง จำเลยที่ 4 นายวิเวท ไชยชนะ จำเลยที่ 5 และ พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผกก.อก.ภ.จว.ยะลา จำเลยที่ 6 ในความผิดฐาน ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองฯ พกพาอาวุธปืน และซ่อนเร้นศพ


คดีนี้สืบเนื่องจากได้มีแก๊งคนร้ายร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่า นายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ หรือน้องบาส อายุ 17 ปี เด็กหนุ่มชาว จ.สงขลา โดยการจ่อยิงที่ศีรษะ แล้วลากศพลงทิ้งใต้น้ำ เหตุเกิดบนสะพานคลองลำภูรา ม.1 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ย.60 ต่อมาทางตำรวจได้จับกุมตัว นายวิชาญ หนูสีคง อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพ่อแฟนสาวของผู้ตายเป็นรายแรก ก่อนขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 5 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ อายุ 48 ปี, นายวิเวท ไชยชนะ อายุ 45 ปี น้องชาย พ.ต.อ.รัฐระวี, ด.ต.อนันต์ จันทร์คง อายุ 48 ปี, ด.ต.ชัยธวัช หรือสายัญ กิตติเวชวรกุล อายุ 48 ปี และนายศักดิ์นรินทร์ หรือโอ อายุ 30 ปี

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ทั้งฝ่ายของผู้ต้องหา และฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต ต่างก็มีการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ได้ถูกนำตัวมาที่ จ.ตรัง และแยกตัวกันสอบสวน พร้อมแจ้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และซ่อนเร้นศพ

ต่อมาผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นขอประกันตัวใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 5 แสนบาท แต่ปรากฏว่า ศาลจังหวัดตรัง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์โหดเหี้ยม มีการวางแผนทำงานกันเป็นทีม และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เกรงจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี และประจักษ์พยาน ก่อนนำตัวส่งเข้าเรือนจำจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยสาเหตุของคดีนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ตายได้แอบปีนบ้านมาหาแฟนสาว ก่อนถูกพ่อของแฟนสาวและพวกจับได้ แล้วมัดตัวผู้ตายไว้ในบ้าน ก่อนโทรเรียก พ.ต.อ.รัฐรวี ซึ่งเป็นญาติกันให้มาหาที่บ้าน พร้อมตำรวจอีก 2 คน จากนั้นได้รุมซ้อมผู้ตายที่โดนจับมัดไว้ และยิงเสียชีวิต ก่อนร่วมกันวางแผนอำพรางศพ ด้วยการอุ้มร่างใส่รถแล้วขับมาจาก อ.เทพา จ.สงขลา มุ่งหน้ามายัง ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง

โดยอาศัยลงมือช่วงกลางดึก เพื่อไม่ให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวเห็นเหตุการณ์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุผู้ต้องหาได้ช่วยกันอุ้มศพ น้องบาส โยนทิ้งคลองหลังวัดน้ำผุด เพื่อหวังอำพรางคดี กระทั่งทีมสืบสวนได้เบาะแส จนนำมาสู่การออกหมายจับดังกล่าว

คดีนี้ศาลจังหวัดตรัง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1-3 กระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษตัดสินประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 4-6 กระทำผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต   บรรยากาศบริเวณศาลจังหวัดตรัง มีทั้งฝ่ายญาติผู้เสียชีวิต และฝ่ายญาติผู้ต้องหา เดินทางมาฟังคำพิพากษากันจำนวนมาก โดยญาติของ น้องบาส ได้นำรูปถ่ายของผู้ตายมาฟังคำพิพากษาด้วย พร้อมเชื่อในความยุติธรรม และมั่นใจจับคนร้ายไม่ผิดตัวแน่นอน

พร้อมนึกสงสารผู้ตายที่ชะตาชีวิตก็เจอความลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ยังมาถูกกระทำการอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้อีก ถ้าดวงวิญญาณมีจริง ขอให้รับทราบว่าวันนี้คือวันที่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว หลังจากนี้ญาติๆ ก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลเพื่อให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ

ด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการส่งฟ้องไปตามกระบวนการ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมและเต็มที่อย่างที่สุดเ พื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนการขอประกันตัวของผู้ต้องหา ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ที่สามารถทำได้ตามกฎหมายภายใน 30 วันนับจากวันนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน