ตรัง สาวร้านชำเอะใจ เดือนเดียวหนุ่มไรเดอร์มาซื้อน้ำแข็งหลายรอบ แถมยืนเฝ้าโต๊ะแคชเชียร์ ตัดสินใจตั้งกล้องมือถือถ่ายคลิป เจอดี ไรเดอร์ท่าที่ลุกลนแอบเชื่อทำมาแล้วหลายครั้งแต่ทางร้านจับไม่ได้ ล่าสุดหลังจากแจ้งความไว้แล้ว คนร้ายยังวกกลับมาซื้อน้ำแข็ง พยายามก่อเหตุอีกแต่ไม่สำเร็จ วอนตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้อย่างเร็วที่สุด
โจรไรเดอร์: วันนี้ 12 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านขายของชำชื่อ “เปี้ยว เปี้ยว ร้านค้า” เลขที่ 221 ถนนท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง น.ส.ขวัญฤดี เทพศรี หรือน้องขวัญ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของร้าน และรับผิดชอบหน้าที่ขายของ เปิดคลิปที่ตัวเองตั้งกล้องแอบถ่ายจากโทรศัพท์มือถือไว้เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 6 ก.ค.67 ที่ผ่านมา โดยคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นเป็นชายอายุประมาณ 30-45 ปี สวมเสื้อเป็นไรเดอร์ส่งอาหารของแอพพลิเคชั่นชื่อดังรายหนึ่ง ได้เข้าสั่งซื้อน้ำแข็งหลอด ในระหว่างที่น้องขวัญเดินออกไปตักน้ำแข็งบริเวณหน้าร้านนั้น
ปรากฏว่าชายดังกล่าวได้เข้ามายืนอยู่ภายในร้าน ก่อนจะด้อม ๆ มอง ๆ มายังโต๊ะแคชเชียร์ ด้วยอาการและสีหน้าลุกลี้ลุกลน ก่อนที่กล้องจะบันทึกให้เห็นว่าชายรายดังกล่าวได้ใช้มือมาเปิดลิ้นชักของโต๊ะแคชเชียร์ ที่ภายในใช้เป็นที่เก็บเงินสด และได้หยิบเงินสดเป็นธนบัตร 100 บาท ไปจำนวนประมาณ 500-600 บาท และในจังหวะเดียวกันน้องขวัญได้ตะโกนบอกว่าน้ำแข็งได้แล้ว ชายรายดังกล่าวก็ได้เดินออกไปจ่ายเงินและรับน้ำแข็ง ก่อนที่จะขับรถ จยย. ยี่ห้อเวฟ 110 สีแดง-ดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน โดยรถ จยย.คันดังกล่าวมีกล่องสำหรับใส่อาหารอยู่บริเวณด้านท้ายรถ โดยที่น้องขวัญสามารถบันทึกภาพนิ่งเอาไว้ได้อีกเช่นกัน ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุ ในวันรุ่งเช้า (7 ก.ค.67) ทางร้านได้นำคลิปซึ่งเป็นพยานหลักฐาน ไปแจ้งความให้ทางตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีไว้แล้ว ที่ สภ.เมืองตรัง
โดยภายหลังจากเกิดเหตุทางร้านได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ( 11 ก.ค.67) กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของชายรายดังกล่าว ซึ่งสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ได้วกกลับมาที่ร้านอีกครั้ง หลังจากก่อเหตุล่าสุดไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค. โดยมาซื้อน้ำแข็งกับยายของน้องขวัญ โดยที่น้องขวัญไม่ได้อยู่ร้าน และชายรายดังกล่าวยังได้มายืนด้อมๆมองๆ ที่โต๊ะแคชเชียร์ อาจจะหวังที่จะก่อเหตุอีกครั้ง แต่ไม่สามารถลงมือก่อเหตุได้ เนื่องจากมีคนนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
- ตรัง จับแล้วมือค้อนทุบหัวฆ่าโหดพ่อค้าปลาสวยงาม กลางงานลอยกระทงกันตัง ทิ้งศพกลางงาน หลักฐานชัด จุดทิ้งมือถือ-โผล่กดเงินสดผู้ตาย
- "ประเสริฐ รักไทย” ประกาศชน “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” สู้ศึกชิงเก้าอี้ อบจ.ตรัง
- ตรัง ร้านอาหารผวา!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ป่วน อ้างสั่งอาหารหรู "พระกระโดดกำแพง" หลอกร้านดังเกือบเสียเงินแสน
น.ส.ขวัญฤดี เทพศรี หรือน้องขวัญ (เจ้าตัวขอให้ปิดบังใบหน้าด้วยครับ) บอกว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ชายรายดังกล่าว ซึ่งทำงานเป็นไรเดอร์ได้เข้ามาซื้อของที่ร้านบ่อยมาก บางวันมาซื้อ 2-3 รอบ และทุกครั้งที่มาจะต้องมาสั่งซื้อน้ำแข็งทุกรอบ และในทุกครั้งตนจะต้องลุกขึ้นไปตักน้ำแข็งภายในถังที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แต่ทุกครั้งคนก่อเหตุจะเข้ามายืนอยู่ที่โต๊ะแคชเชียร์ตลอด เพราะปกติลูกค้าคนอื่นที่มาซื้อน้ำแข็งจะเดินไปรออยู่ที่ถังน้ำแข็ง ช่วงแรกๆ ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่หลังๆ ตนก็ถามผู้ก่อเหตุว่าทำไมถึงซื้อแต่น้ำแข็ง เจ้าตัวก็ไม่พูดแต่หัวเราะ จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุล่าสุดก็เห็นคนก่อเหตุมาสั่งซื้อน้ำแข็งจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกคลิปวีดีโอไว้ที่โต๊ะแคชเชียร์ ก็เห็นอย่างชัดเจนเลยว่าแอบเปิดลิ้นชักขโมยเงินสดไป
ตนเชื่อว่าทุกๆ ครั้งที่ไรเดอร์เข้ามาซื้อน้ำแข็งจะต้องแอบขโมยหยิบเงินสดไปทุกรอบ หรือบางรอบอาจะไม่ได้ไปเนื่องจากมีคนนั่งเห็นอยู่ และในทุกๆ ครั้งเชื่อว่าคนก่อเหตุตั้งใจที่จะหยิบเพียงแค่แบงก์ร้อย เพื่อที่จะไม่ให้ทางร้านสงสัย เพราะแบงก์พันที่มัดกับยางไว้ไม่เคยสูญหาย และเชื่อว่าคงจะได้เงินไปแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะตนไม่ได้สังเกตหรือเอะใจและนับเงินที่มีอยู่ทันที ส่วนสาเหตุที่คนก่อเหตุสั่งน้ำแข็งทุกครั้งก็เข้าใจได้ว่าคนก่อเหตุอยากให้เราลุกขึ้นไปตักน้ำแข็ง โดยที่เรามองไม่เห็นและง่ายต่อการที่เขาจะได้แอบขโมย
ยอมรับว่ารู้สึกโมโหมาก กว่าจะขายของได้เงินในแต่ละบาท ยิ่งในแต่ละวันลูกค้าก็ไม่ได้มากมาย จู่ๆ กลับมาขโมยเงินของเราไปง่ายๆ แบบนั้น ก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด หลังจากเกิดเหตุก็มาติดกล้องวงจรปิดไว้แล้ว อยากให้ทุกร้านระมัดระวังและช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากเห็นลูกค้าหรือใครก็แล้วแต่เข้ามาในร้านด้วยท่าทีแปลกๆ ให้สังเกตและติดกล้องวงจรปิดจะเป็นหลักฐานไว้จะดีมาก ก็อยากฝากไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้อย่างเร็วที่สุด เพราะคนก่อเหตุยังคงขับรถทำงานและยังมาที่ร้านอยู่ และอาจจะไปลงมือก่อเหตุกับร้านอื่นๆอีก.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: