ตำรวจ สภ.ปะเหลียน นำหนุ่มเมาน้ำกระท่อมทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังจากก่อคดีพยายามข่มขืนสาวสวนยาง แล้วหลบหนีไปกบดาน จ.กระบี่ แต่ที่สุดก็ตามรวบมาได้
ตรัง รวบหนุ่มเมาน้ำกระท่อมทำแผนใช้ไม้ทุบต้นคอพยายามข่มขืน : ตำรวจ สภ.ปะเหลียน ตามรวบตัวมาได้ ผกก.สภ.ปะเหลียน พร้อมชุดสืบสวน สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง นำตัวคนร้าย คือ นายเรวัติ เดชค้ำ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 ม.3 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง จากกรณีคนร้ายใช้ไม้ทุบต้นคอพยายามข่มขืนน้องการ์ตูน อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 5 บ้านเขาติง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มาทำแผนยังที่เกิดเหตุหลังจากหนีไปกบดานอยู่ในสวนปาล์มขนำไม่มีเลขที่ในสวนปาล์ม ม.6 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 เวลา 17.30 น.
ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2561 ที่ สภ.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ ผกก.สภ.ปะเหลียน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ. ปะเหลียน ได้นำตัวผู้ต้องหานายเรวัติ เดชค้ำ ลงพื้นที่ทำแผนประกอบคำสารภาพบริเวณที่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดตรัง ซึ่งผู้ก่อเหตุ นายเรวัติ เดชค้ำ ยังคงรับสารภาพว่าหวังจะข่มขืนจริงๆ หลังจากก่อเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบปากคำตนก็ได้รับสารภาพ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวออกมา ตนเองจึงเดินทางไปยังบ้านญาติที่จังหวัดกระบี่
พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ ผกก.สภ.ปะเหลียน กล่าวว่า คดีดังกล่าวตนเองได้เรียกตัวนายเรวัติ ผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาสอบปากคำแล้วซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งหมด โดยเล่าว่า ตนเองเป็นคนต่างจังหวัดเดินทางมาหาเพื่อนชื่ออำที่อาศัยอยู่ขนำ ซึ่งคืนเกิดเหตุเพื่อนลงไปกรีดยางแล้วตนอยู่ขนำเพียงคนเดียวแต่ในช่วงเย็นกินน้ำกระท่อมเข้าไป เป็นช่วงที่ผู้เสียหายขี่ จยย.มากรีดยางพอดีจึงเกิดอารมณ์ ทางเพศ จึงได้ตามไปแอบซุ่มรอในสวนยางขณะที่ผู้เสียหายกรีดยางจากนั้นได้ใช้ไม้ตีผู้เสียหายเพื่อข่มขืน ซึ่งทางศาลได้พิจารณาแล้วว่าไม่ ใช่เป็นการข่มขืนแต่เป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย จึงปล่อยตัวไป ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้เสียหายมาให้การเพิ่มเติมถึง 3 ครั้ง แต่ยังคงให้การเหมือนเดิม 
ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาเป็นการทำร้ายร่างกายเพียงอย่างเดียว ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วศาลยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขืนกระทำชำเรา ถึงแม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพก็ตาม แต่ทั้งนี้หากทางผู้เสียหายจะคัดค้านการประกันก็ทำได้ และทั้งหมดอยู่ที่การพิจารณาของศาลต่อไป
