X
บุกเดี่ยวร้านทอง,บุกเดี่ยวชิงทอง,กระชากสร้อย, ห้างทองศาสตร์สุวรรณ, ตลาดลำภูรา,สภ.ห้วยยอด,

ตรัง บุกเดี่ยวร้านทองชิงสร้อยคอหนีสุดท้ายถูกรวบทันควัน

วงจรปิดจับภาพ หนุ่มวัย 31 ปี ใจนิ่ง! เปิดหน้าบุกเดี่ยวเข้าร้านทอง ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำ 1 บาท ก่อนกระชากสร้อยขาดจากมือพนักงาน ได้ไปแค่ครึ่งเส้น รีบบึ่งรถหนี เตรียมนำไปขายร้านทอง ที่อยู่ห่างจากโรงพักแค่ 100 เมตร จนถูกรวบตัวได้ทันควันภายใน 20 นาที รับสารภาพอ้างทำลงไปเพราะไม่มีเงิน ส่วนร้านทองดังกล่าวนี้เคยถูกคนร้ายเข้าวิ่งราวมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  

บุกเดี่ยวร้านทอง:  เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันนี้ 2 พ.ย.67 ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุและสั่งการ 191 ภ.จว.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานห้างทองศาสตร์สุวรรณ สาขาตลาดลำภูรา เลขที่ 154/17 หมู่ 6 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (เขตเทศบาลตำบลลำภูรา) ว่าได้มีคนร้าย เพศชาย เข้าวิ่งราวทรัพย์ เป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท โดยได้กระชากจากมือพนักงานไปทำให้สร้อยขาด คนร้ายได้ไปประมาณครึ่งเส้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่ขาดยังคงติดมือของพนักงานอยู่

หลังรับแจ้งจึงได้เร่งประสานไปยัง สภ.ห้วยยอด พร้อมกับโรงพักพื้นที่ใกล้เคียง ให้วิทยุสกัดจับกุมคนร้ายเป็น เพศชาย สวมเสื้อกีฬา ใช้รถ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟินน์ สีดำ-แดง ทะเบียน 1 กพ 7024 ตรัง หลบหนีโดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปในเขตพื้นที่ เทศบาล ต.ห้วยยอด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ห้วยยอด จะพบเห็นผู้ก่อเหตุขับรถไปที่บริเวณหน้า สภ.ห้วยยอด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับวกกลับมาหน้าร้านทองอีกแห่งในพื้นที่ ต.ห้วยยอด ซึ่งอยู่ห่างจาก สภ.ห้วยยอดประมาณ 100 เมตร เพื่อนำทองที่ได้มาไปขาย ก่อนตำรวจจะเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำ และควบคุมตัวไปสอบปากคำในทันที โดยใช้ระยะเวลาจับกุมได้หลังเกิดเหตุประมาณ 20 นาที

ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.อิศราพงศ์ จินา ผกก.สภ.ห้วยยอด พ.ต.ท.สันต์ นุ่นเศษ รอง ผกก.สส.สภ.ห้วยยอด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายกังกล่าว ทราบชื่อคือ นายวิศรุต จันทร์ดวง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 4 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำ และ รถจยย. ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10 นาที ท่ามกลางกำลังตำรวจควบคุมสถานการ์กว่า 20 นาย และชาวบ้านส่วนหนึ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ที่ก่อเหตุลงไปเพราะไม่มีเงิน และไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง รับจ้างทั่วไป ไม่มีครอบครัว ซึ่งไม่ได้ตระเตรียมการใดๆมาก่อน โดยก่อนจะก่อเหตุได้ขับรถไปวนเวียนที่ร้านทองที่อยู่ไม่ไกลกับร้านที่ก่อเหตุมาก่อนแล้ว แต่ปรากฏว่ามีคนเยอะ จึงได้สินใจกลับมาเข้าร้านทองแห่งนี้ และก่อเหตุดังกล่าว และหลบหนีไปเพื่อจะนำไปขายที่ร้านทองในพื้นที่ เทศบาล ต.ห้วยยอด ที่อยู่ห่างจาก สภ.ห้วยยอด เพียงแค่ 100 เมตร แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ที่หน้าร้านทองที่จะนำไปขายเสียก่อน โดยคิดว่าหากขายทองได้จะนำเงินไปใช้จ่ายทั่วไป โดยไม่มีใครร่วมก่อเหตุ ทำเพียงคนเดียว และไม่ได้ติดยาเสพติด ไม่เล่นการพนันใดๆ ที่เลือกร้านนี้เพราะร้านเปิดอยู่ และมีคนน้อย

ทางด้าน นางโสพิณญา ปิยนารถ อายุ 49 ปี พนักงานร้านทองที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุลงมืออย่างใจเย็น ไม่ปิดบังใบหน้า ตนอยู่ที่ร้านกัน 2 คน คนร้ายได้ขับรถ จยย.มาจอดบริเวณหน้าร้าน แต่ไม่ได้ดับเครื่องรถ และได้เดินเข้ามาในร้าน โดยเข้ามาพูดขอดูสร้อยคอทองหนัก 1 บาท ซึ่งขณะนั้นตนก็เอะใจ เพราะดูท่าทีมีพิรุธ ประกอบกับไม่ดับเครื่องรถ จึงได้ชี้ให้ดูแค่ในตู้ ไม่ได้นำออกมาให้ดูก่อน แต่ปรากฏว่าคนร้ายยังพยายามจะขอให้นำทองออกมาดู ตนจึงหยิบออกมาให้ดู 1 เส้น พร้อมกับคิดราคาให้กับคนร้าย

แต่ปรากฏว่าคนร้ายก็พยายามที่จะขอหยิบดูอย่างเดียว ตนจึงยื่นให้ดูแต่ตนก็ยังถือสร้อยอยู่ ไม่ปล่อยไปทั้งเส้น คนร้ายก็ได้พูดมาว่าขอดูทั้งเส้น ไม่ได้จะมาปล้น จะแค่ขอดู จังหวะนั้นปรากฏว่าคนร้ายได้กระชากทองไปจากมือ ทำให้สร้อยขาด โดยส่วนที่คนร้ายได้ไปจำนวนมากกว่าที่ขาดติดมือตนมา ก่อนจะเดินขึ้นรถหลบหนีไปอย่างปกติ ไม่ได้มีอาการเร่งรีบแต่อย่างใด ตนจึงกดสัญญาณเตือนภัย และโทรแจ้ง 191 ซึ่งตำรวจทำงานจับกุมได้เร็วมาก ซึ่งคนร้ายรายนี้ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยเข้ามาใช้บริการกับร้านมาก่อน ก็อยากฝากเตือนไปยังร้านอื่นๆให้ระวัง สังเกตอาการของลูกค้าไว้        

ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้รับแจ้งเหตุ จึงได้รีบวิทยุแจ้งตำรวจ สภ.ห้วยยอดทันที พร้อมแจ้งรูปพันสัณฐานคนร้าย ก่อนจะจับกุมได้พร้อมของกลางภายในเวลาประมาณ 20 นาที ในพื้นที่ตลาดห้วยยอด ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ากำลังนำทองที่ได้มาไปขายที่ร้านทองใกล้กับที่จับกุมได้ ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 หรือประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ร้านทองดังกล่าวนี้ยังเคยถูกคนร้ายรายอื่นบุกเดี่ยว เข้าวิ่งราวแหวนมองคำหนัก 2 สลึงมาแล้ว และสามารถจับกุมตัวได้ในระยะเวลารวดเร็วเช่นกัน ส่วนเหตุการณ์นี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติคดีอาญา ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด พร้อมทั้งได้มีการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุ แต่ยังไม่พบการเสพสารเสพติด ซึ่งจะมีการนำตัวไปตรวจแยกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์ ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน