หนุ่มเบญจเพส พบโครงกระดูก เสื้อผ้า บนเทือกเขาบรรทัด ขณะที่ลำตัวส่วนบนหาย ยันเป็นของหนุ่มวัยเบญจเพส หลังพบครั้งสุดท้ายมีอาการคล้ายผีสิงร่าง ลั่นขออยู่บนป่า 2 เดือน สุดท้ายพบเหลือแค่โครงกระดูก
หนุ่มเบญจเพส ผีสิงร่าง หายเข้าป่า 2 เดือน สุดท้ายเหลือแค่โครงกระดูก : เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ธ.ค.62 ร.ต.อ.ชนวีร์ ชุมจุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านที่เก็บรังผึ้งบนภูเขา ว่าได้พบโครงกระดูก ชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์ และชุดเสื้อผ้าผู้ชาย จำนวนหนึ่งกระจายอยู่บนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อระหว่าง จ.ตรัง กับ จ.พัทลุง บริเวณใกล้กับคลองลำพิกุล ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง (ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด)
จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (กู้ภัยย่านตาขาว) และชาวบ้านในพื้นที่ รวมกว่า 40 คน เดินเท้า ขึ้นไปบนภูเขา ระยะทางจากพื้นจอดรถ ประมาณ 4 กิโลเมตร ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่มีความสูงและลาดชัน ใช้ระยะเวลาเดินเท้าไปและกลับ ใช้เวลา 5 ชั่วโมง
ถึงที่เกิดเหตุบริเวณตลิ่งริมคลองลำพิกุล พบชิ้นส่วนกระดูกท่อนล่างของมนุษย์ ตั้งแต่สะเอวจนถึงเท้า จำนวนนับ10 ชิ้น และเศษชิ้นเนื้อของมนุษย์อีกประมาณ 1 ชิ้น มีร่องรอยสักยันต์ติดอยู่บนผิวหนังที่แห้งเกรียม กระจายอยู่บนพื้นดิน เจ้าหน้าที่จึงทำการค้นหาชิ้น
ส่วนกระดูกบริเวณท่อนบนที่หายไป ตั้งแต่สะเอวไปจนถึงศีรษะ แต่ปรากฏว่าไม่พบเจอแต่อย่างใด ห่างออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณริมหน้าผา พบเสื้อผ้าของผู้ชายอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยมีดพกอีก 1 เล่ม ตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่จึงทำการชันสูจน์เบื้องต้น ก่อนเก็บรวบรวมและนำลงมาบริเวณพื้นล่าง
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทางนางละออง แป้นไทย อายุ 74 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ได้เข้ามาดูชิ้นส่วนของมนุษย์และเสื้อผ้าและชิ้นหนังรอยสักที่พบ พร้อมกับยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นของหลานตัวเอง คือ นายสุรศักดิ์ แก้วเกลี้ยง อายุ 25 ปี อยู่ตามบัตรประชาชนบ้านเลขที่ 56/4 หมู่ 2 ต.เชิงแส อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา โดยตนเองเป็นยายของผู้ตาย
และขึ้นไปบนภูเขาลูกดังกล่าวจากทางน้ำตกสายรุ้ง หมู่ 4 ต.นาชุมเห็ด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2561 รวมระยะเวลากว่า 2 เดือน กับอีก 27 วัน เนื่องจากตนเองจำรอยสักยันต์บนผิวหนังได้ รวมทั้งชุดเสื้อผ้าและมีดพบ ว่าเป็นของหลานชายที่หายตัวไป
จากการบอกเล่าของผู้ที่พบเห็นผู้สูญหายครั้งสุดท้าย ยืนอยู่บริเวณศาลา “ศาลรุกขเทวดา ทวดหินหัวช้าง” ก่อนบุคคลที่พบเจอได้พูดสั่งให้กลับไปบ้านได้แล้ว ผู้ตายได้พูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงโมโหว่า ไม่กลับจะขออยู่ที่นี้สัก 2 เดือน ก่อนที่ผู้พบเจอจะเดินกลับออกมาด้วยอาการตกใจ
จากการสังเกตของผู้ที่พบเจอ ผู้สูญหายได้ใช้น้ำเสียง รวมทั้งนิสัยท่าทางต่างๆ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ในลักษณะเหมือนมีร่างของภูตผีเข้าสิงอยู่ภายในร่าง จนมีการออกกันค้นหาแต่ก็ไม่พบ กระทั่งมาพบเหลือแค่โครงกระดูก
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีและแพทย์เวร ได้ทำการชันสูจน์ตรวจสอบ พร้อมลงความเห็นร่วมกันว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวน่าจะเป็นของนายสุรศักดิ์จริง ตามที่ญาติเข้ามายืนยัน แต่ไม่สามารถยืนยันสาเหตุของการเสียชีวิตได้ส่วนร่างกายท่อนบนที่สูญหายไปคาดว่าน่าจะโดนสัตว์คาบไปกินหรือไม่ก็ตกลงในคลองไหลไปกับกระแสน้ำ
ขณะที่ทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย ก่อนจะมอบชิ้นส่วนทั้งหมดให้กับญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยทำการฝังดินภายในวัดลำพิกุลในวันเดียวกันโดยไม่มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: