ตรัง ผู้สมัครพรรค รวมพลังประชาชาติไทย แกนนำกปปส.ตรัง เผยลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้เพื่อขอความเป็นธรรม แก้ปัญหาราคายาง-ปาล์ม แต่คดีขัดขวางการเลือกตั้งปี 57 คดีถึงศาล ชูนายสุเทพ การแก้ปัญหายางพาราได้ดีที่สุดประเทศนี้
ตรัง รวมพลังประชาชาติไทย ชูนายสุเทพ การแก้ปัญหายางพาราได้ดีที่สุดประเทศนี้ :
บรรยากาศการรับสมัคร ส.ส วันที่ 2 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้ง ตรัง ค่อนข้างเงียบเแต่ก็ยังมีผู้สมัครเดินทางมายื่นใบสมัครกัน ได้แก่ พรรคพลังไทยรักไทยเขต 1 และเขต 3 ตามมาด้วย พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติและพรรคพลังรวมประชาชาติไทย รวม 4 พรรค
ทางด้านนายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย แกนนำ กปปส.ตรัง เรียกร้องปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง และขัดขวางการเลือกตั้งปี 57 กล่าวว่าแรงจูงใจที่ทำให้นายสุเทพเข้ามาลงการเมืองอีกครั้งนั้น ตนเองในฐานะที่เป็นคนเคลื่อนไหวเรื่องปากท้องพี่น้องประชาชนมาตลอด 5 ปี พอถึงเวลาการเลือกตั้ง ตนต้องการผลักดันเรื่องที่ตนเองต้องการจะทำผ่านทางพรรคการเมือง ส่วนเรื่องของยางพารา ตนเองได้ศึกษาเรื่องของแนวทางเรื่องบุคลากร ตนมองว่าคนที่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเรื่องยางพาราดีที่สุดในประเทศนี้
ตั้งแต่มียางพาราต้นแรกมา 100 กว่าปี คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งปี 53-54 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้ราคายางสูงขึ้นได้ 120-180 บาท เมื่อศึกษาถึงแนวทางหลังเลือกตั้งมันมีความไปได้ เป็นรูปธรรมที่ทำให้ราคายางสูงขึ้น เหมือนปี53-54 เพราะฉะนั้นต้องอาศัยแรงเชียร์ของประชาชนให้พรรคที่ตนสนับสนุนเป็นส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย ปัจจุบันเรื่องของเผด็จการที่มันไกลตัวเราค่อยมาว่ากัน เอาเรื่องของปากท้องประชาชนเป็นหลัก แนวทางของพรรครวมประชาชาติไทยมีแนวทางเป็นรูปธรรมแน่นอน ซึ่งค่อยพบกันบนเวทีว่าการปราศรัยมีแนวทางอย่างไร
ก่อนหน้านี้ตนเคยมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น ในความคิดของตนมองว่าเรื่องอื่นยังไม่มีการปฏิรูป แต่การปฏิรูปการเมืองมันได้เริ่มขึ้นแล้ว จะเห็นได้ว่าเมื่อก่อนนี้ประชาชนไม่มีสิทธิในการคิด แค่คิดก็ไม่มีสิทธิแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ไม่ว่าคนอาชีพไหน ฐานะอย่างไร มีโอกาสสมัครผู้แทนได้ทั้งหมด ซึ่งจังหวัดตรังสมัครแล้ว 50 กว่าคน นี่คือการปฏิรูปการเมืองแล้ว แต่โอกาสต่อไปต้องแก้ไขไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพทางการเมืองซึ่งเราเรียกร้องมาตลอด ส่วนด้านอื่น ๆ ยังไม่มีการปฏิรูปซึ่งเราก็ต้องผลักดันกันไปซึ่งมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องการปฏิรูป
ข่าวน่าสนใจ:
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
ส่วนเรื่องคดีความที่ กกต.ได้มีการฟ้องสู่ศาลเรื่องขัดขวางการเลือกตั้งนั้น เรื่องของคดี ตนมีข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 57 อัยการเคยสั่งไม่ฟ้องทั้งหมดแล้ว แต่พอถึงเวลาเลือกตั้งมีการรื้อคดีขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เพิ่งเริ่มกระบวนการสอบสวน ส่งฟ้อง เพราะฉะนั้นคดีความยังไม่ถึงที่สุด ส่วนที่เป็นคดีว่าตนไปขัดขวางการเลือกตั้งนั้นไม่ใช่ ตนออกไปเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพราะขณะนั้นหากมีการเลือกตั้งก็สิ้นสูญงบประมาณโดยใช่เหตุ เพราะไม่มีทางเดินหน้าต่อได้เลย นักการเมืองในขณะนั้นมีความขัดแย้งสูงมาก
เลือกตั้งเสร็จก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียเงินไป 2-3 พันล้าน ตนจึงเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อน ส่วนการเลือกตั้งตนไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นคดียังไม่ถึงที่สุดตนก็จะสู้คดีว่าตนไม่มีความผิดตามที่อัยการพนักงานสอบสวนกล่าวหา ตนมั่นใจว่าแนวทางที่ตนเองกำลังเดิน ตนเองเดินทางถูก ต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ส่วนการมาช่วยลูกทีมคราวนี้ เมื่อลงสู่สนามการเมืองแล้ว เราต้องต่อสู่ตามวิถีทางการเมืองเต็มรูปแบบ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ในทางส่วนตัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนนับถือยังคงเคารพนับถือเหมือนเดิมนี่คือเรื่องของการเมือง การเมืองคือการต่อสู้แบบระบบประชาธิปไตย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: