กฤษอนงค์ หญิงเก่ง ประกาศให้รู้ว่าคนธรรมดายังมีตัวตน ขอโอกาสคนธรรมดาเข้าไปเปลี่ยนแปลง รับเป็นนอมินีของประชาชน อย่าดูถูกประชาชน อย่าดูถูกตัวเอง นักการเมืองไม่สามารถเลือกประชาชน แต่ประชาชนมีสิทธิเลือกนักการเมือง
กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าพรรคภาคีเครือข่ายไทยพร้อมด้วย นายศิวพัชญ์ สุนทรจิรวัฒน์ นักแสดงชื่อดัง ดำรงตำแหน่งโฆษกพรรค และผู้สมัคร ส.ส อีก 5 จังหวัดภาคใต้ อาทิ ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ระนอง และสมาชิกพรรคกว่า 100 คน ซึ่งมีว่าที่ ส.ส. ส่งทั้งหมดทั่วประเทศ 137 เขต แบบบัญชีรายชื่อ 34 คน
ร่วมกันเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งใน จ.ตรัง ซึ่งเขต 1 ได้แก่ นายธนกร ช่วยเกลี้ยง ได้หมายเลข 34 ,เขต 2 ได้แก่นางรัตนา ช่วยเกลี้ยง ได้หมายเลข 34 ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันและยังจับสลากได้หมายเลขเดียวกันด้วย ส่วนเขต 3 ได้แก่นายมิตต์ดา ช่วยเกลี้ยง ซึ่งเป็นพี่ชายของเขต 1 ได้หมายเลข 35 รวมตระกูล”ช่วยเกลี้ยง”สมัครครบทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นนับครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีคนนามสกุลเดียวกันลงสมัครรับเลือกตั้งครบทั้ง 3 เขตใน จ.ตรัง
ทั้งนี้ น.ส. กฤษอนงค์ หัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า 5 ปี ที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีขึ้น ชีวิตจึงต้องมีการกลับหัวกลับด้าน และต้องมีการปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดี จึงเป็นที่มาของป้ายที่กลับหัวกลับด้าน ทั้งนี้การเลือกคนที่เข้ามาแก้ปัญหาต้องเลือกคนที่รู้จัก คนที่ต้องเผชิญปัญหาร่วมกันกับเรา ไม่ใช่นั่งเก้าอี้บัญชาการอย่างเดียว ไม่ได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร บทบาทของตน ตนมองการเมืองเป็นเพียงเครื่องมือ สามารถนำพรรคการเมืองช่วยคน นำนโยบายเข้ามาช่วยคนได้มาก 
เมืองไทยต้องมีพรรคการเมืองระดับเล็ก ๆ เพื่อเข้าใจปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่นั่งบัญชาแต่บนโต๊ะ ตนเองไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเป็นดอมินีพรรคใหญ่ ไม่สนคำถามเหล่านี้ เพราะตนรู้ดีว่ากำลังทำอะไร ตนเป็นดอมินิของประชาชน ทั้งนี้ฝากไปยังประชาชนทุกคนว่า อย่าทำลายคะแนนที่มีความหมายของตน อย่าดูถูกตัวเอง นักการเมืองไม่สามารถเลือกประชาชน แต่ประชาชนมีสิทธิเลือกนักการเมือง ที่ประเทศเป็นแบบนี้เพราะตัวเราเอง เพราะฉะนั้นถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนที่ตัวเรา
ตนมองว่าการท่องเที่ยวเป็นหัวใจหลักของประเทศ เม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาสะพัดในประเทศ เกิดการสร้างาน สร้างรายได้ จะทำให้ภาพรวมในฐานรากจะดีขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือการโปรโมทการท่องเที่ยว สำหรับเป้าหมายการลงสนามครั้งนี้ต้องชนะ ต้องเป็นที่ 1 แต่ทั้งนี้ต้องชนะตัวเองก่อน ประกาศให้รู้ว่าคนธรรมดายังมีตัวตน สนามนี้จะทำเต็มที่ ขอโอกาสคนธรรมดาเข้าไปเปลี่ยนแปลง
สิ่งแรกที่คนในพรรคต้องตระหนักคือ อย่าแจกใบปลิวแล้วหายไป แต่ให้เข้าถึงประชาชนด้วยการสอบถามปัญหา แล้วจดบันทึกลงในสมุดให้ชัดเจนครบถ้วน และนำข้อมูลทั้งหมดมาเสนอยังพรรค เพื่อหาแนวทางแก้ไข ทั้งนี้ ทุกคน ห้ามด่า ว่า ติคนอื่น ให้เอาเวลาทั้งหมดมามองตัวเองว่าจะทำอะไร จะแก้ไขอย่างไร เพราะมัวแต่ติคนอื่นจนลืมมองตัวเองว่าดีกว่าคนอื่นหรือเปล่า เพราะพรรคภาคีเครือข่ายไทย เราต้องทำการเมืองใหม่ มองกลับด้าน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง
