เกษตรกร ล้มต้นยางปลูกสละผสมระกำหวาน แค่ 110 ต้น สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน โดยการนำเกสรตัวผู้ระกำหวาน พันธุ์พื้นบ้าน มาผสมกับเกสรตัวเมียของสละสุมาลีและเนินวง ผลผลิตที่ออกมา ผลสีส้มแกมแดง เนื้อหนา รสชาติหวานและหอมมาก
เกษตรกร ล้มต้นยางปลูกสละผสมระกำหวาน แค่ 110 ต้น สร้างรายได้หลักหมื่น : นายชลปกรณ์ นุชกิจ หรือ(หนุ่ย) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 1 ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ใช้พื้นที่ 5 ไร่ ทำไร่นาสวนผสม แต่ปลูกสละผสมกับระกำหวานหันมาปลูกระกำหวานเป็นหลักโดยปลูกแค่ 3 ปี ก็สามารถตัดผลผลิตขายได้แล้ว เร็วกว่าปลูกยางพารากว่าครึ่ง เพราะยางพาราปลูกกว่าจะได้เปิดกรีดใช้เวลา 7 ปี
สละที่ปลูกมีทั้งพันธุ์สุมาลีและเนินวงศ์ เพียง 110 ต้นเท่านั้นก็สามารถสร้างรายได้กว่าหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน ทั้งนี้ เกษตรกรรายนี้ยังปลูกพืชผลไม้อย่างอื่นอีกมากมายผสมผสาน กัน เช่น ส้มโอ มะพร้าวน้ำหอม ละมุด ไผ่หวานและขนุน เพื่อให้มีกินมีขายได้ตลอดทั้งปี
สละที่นี่จะมีความพิเศษกว่าเจ้าอื่นๆ โดยการนำเกสรตัวผู้ระกำหวาน ซึ่งเป็นระกำหวานพันธุ์พื้นบ้านของดีชาวทุ่งค่าย มาผสมกับเกสรตัวเมียของสละสุมาลีและเนินวง ผลผลิตที่ออกมา ผลของสละจะมีสีส้มแกมแดง เนื้อหนา รสชาติหวาน และหอมมาก
ที่สำคัญ ปลอดภัยจากสารเคมีเพราะเป็นการทำเกษตรแบบอินทรีย์ สามารถสร้างรายได้จากสละกว่า 10,000 บาท/เดือน โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง สละจะมีรสหวานเพราะขาดน้ำและหอมมาก ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามากกว่าหน้าฝน
โดยขายกิโลกรัมละ 70 บาท ลูกค้ามีทั้งในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง ผลผลิตที่ออกมายังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากมีลูกค้าขาประจำแวะเวียนเข้ามาสั่งซื้อเพื่อเป็นของฝากหรือนำไปแปรรูปขายสร้างรายได้ช่วงหน้าแล้ง
ซึ่งนายชลปกรณ์ นุชกิจ เกษตรกรผู้ปลูกสละในตำบลทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง กล่าวว่า ปลูกสละและทำสวนเกษตรแบบผสมผสานบนเนื้อที่ 5 ไร่ มาหลายปีแล้ว โดยมีผลไม้หลากหลายชนิดสามรถเก็บขายได้ทั้งปี และที่นี่ยังถือเป็นถิ่นของระกำหวานซึ่งเป็นสายพันธุ์พื้นบ้านของทุ่งค่ายตนจึงนำเกสรมาผสมกับสละดูปรากฎว่าอัตราการติดดอกและออกผลดีมาก
และทำให้มีรสชาติที่แตกต่างจากเจ้าอื่น ทั้งมีความหอม หวาน และเนื้อเยอะกว่า โดยขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 70 บาท และลูกค้าโทรสั่ง ซึ่งก็มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า สนใจโทรไปสั่งจอง หรือซื้อได้ที่ 089 873 4941
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: