“คมแหลมสอม”ตร.พม่า ส่งนายชยพล หรือ อาคม เสียมไหม เข้าคุกไทย ตำรวจกองปราบฯนำผู้ต้องหากลับมายังจังหวัดตรัง ล่าสุดวันนี้ตำรวจได้นำตัวฝากขังยังศาลจังหวัดตรังโดยไม่มีญาติมายื่นประกันตัว
คมแหลมสอม : จากกรณี นายชยพล หรือ อาคม เสียมไหม อายุ 35 ปี ฉายา “คมแหลมสอม” ชาว จ.ตรัง ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.กราดยิงผู้คนภายในโรงเหล้ามหานคร @ ตรัง ริมถนนสายตรัง-พัทลุง จนทำให้นายสิริพล หรือ หนึ่ง แต้มประสิทธิ์ อายุ 22 ปี ถึงแก่ความตาย และยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนี้ถึง 7 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561
รวมถึงใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันไล่ยิงกลุ่มเพื่อนๆ ของนายสิริพล จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย แล้วหลบหนีไปจนกระทั่งถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประเทศเมียนมาจับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ขณะหลบหนีกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ สืบทราบว่า นายชยพล เสียมไหม
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.480/2561 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2561 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ประเทศเมียนมา ทางกองปราบฯ ก็ได้พยายามติดต่อประสาน เพื่อขอรับตัวมาดำเนินคดีในไทย รอกระทั่ง นายชยพล เสียมไหม หรือ “คมแหลมสอม” พ้นโทษ ทางการเมียนมา ก็ได้มีการประสานติดต่อมายังกองปราบฯ เพื่อส่งตัวผู้ต้องไปดำเนินคดีในประเทศไทย และได้มีการส่งมอบตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองตรัง
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัว นายชยพล หรือนายอาคม เสียมไหม “ คมแหลมสอม” หลังลงจากเครื่องบินมาจากท่าอากาศยานตรัง ก่อนนำตัวขึ้นไปยังห้องศูนย์ปฏิบัติการชั้น 2 เพื่อทำการสอบปาก คำ โดยมี พ.ต.อ.สันทัด วินสน รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง
พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 15 นาย โดยให้สื่อมวลชนบันทึกภาพเพียงแค่ 10 นาที ก่อนจะให้สื่อมวลชนออกจากห้อง และงดให้การสัมภาษณ์ทุกกรณี ขณะที่ พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า การนำตัวนายชยพล เสียมไหม มาในวันนี้เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ซึ่งในคดีนี้ถือว่าพยานหลักฐานแน่นหนาเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานที่เกิดเหตุบันทึกภาพผู้ต้องหาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางตำรวจจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 เม.ย.62 ที่ สภ.เมืองตรัง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ กว่า 10 นาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้ร่วมกันนำตัว นายชยพล หรือนายอาคม เสียมไหม หรือ คมแหลมสอม ไปฝากขังที่ศาล จ.ตรัง โดยมีกำลังตำรวจคุมเข้มอย่างแน่นหนา ท่ามกลางญาติ พี่น้อง ของผู้ต้องหา ค่อยเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
ซึ่งผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียด พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาตลอดทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหายอมให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยให้การว่า ช่วงเกิดเหตุได้เข้าไปเที่ยวยังสถานบันเทิงดังกล่าวพร้อมกับพวก โดยก่อนลงมือกระทำได้เกิดเขม่นหน้ากับผู้ตาย เลยบันดาลโทสะ
ใช้อาวุธปืนที่ลักลอบนำเข้าไปกราดยิงจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งในคดีนี้ตลอดการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ต้องหามีเพียงคนเดียว ซึ่งในวันนี้เป็นการส่งฝากขังผลัดแรก 12 วัน โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายศิริพล แต้มประสิทธิ์ อายุ 22 ปี อดีตทหารเกณฑ์ปลดประจำการ ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตและคู่กรณีเพียงคนเดียวที่เสียชีวิต พบกับนายสมทบ ชูทิพย์ อายุ 74 ปี ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นตาของผู้ตาย กล่าวว่า เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้ปล่อยตามเรื่องไป
แต่ก็อยากจะเรียกร้องเรื่องค่าเสียหายกับทางโรงเหล้ามหานคร @ ตรัง เป็นค่าเยียวยา แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะจ่ายให้ไหม เรื่องนี้ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ร้อนล้วนๆ เพราะหลานของตัวเองไม่ได้ผิดอะไร และได้พกพาอาวุธปืนเข้าไปได้อย่างไรตรวจคนอื่นทุกคน แต่มีแค่ผู้ต้องหาคนเดียวที่ไม่ตรวจ แต่ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากแล้ว เพราะเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว
ส่วน นางสมพร แต้มประสิทธ์ อายุ 51 ปี มารดาผู้ตาย กล่าวว่า ในใจตอนนี้อยากจะเห็นหน้าคนที่ยิงลูกชาย แต่ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในใจลึกๆ อยากให้รับโทษถึงประหารชีวิต เพราะคนร้ายคนนี้ก่อเหตุมาหลายคดีแล้ว
โดยก่อนเกิดเหตุ ยังเกิดเรื่องกับคนใกล้ๆของตนเองด้วย และตอนนี้ไม่อยากเห็นประกันตัวออกมา เพราะเชื่อแน่ว่าถ้าหลุดออกมาก็ยังคงก่อเหตุแบบนี้อีกแน่นอน โดยที่ทำลูกชายของตนถือว่าทำกับเด็กอายุห่างกันอย่างมาก
ทั้งนี้ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ดำเนินตามระเบียบคำสั่ง คสช.ที่ 22/58 ปิดโรงเหล้ามหานคร@ตรัง เป็นเวลา 5 ปี ฐานปล่อยประละเลยให้พกพาอาวุธและทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากและยังปล่อยให้เยาวชนเข้าไปมั่วสุม ทันทีหลังเกิดเหตุแค่เพียง 1 วันเท่านั้น
