เทศบาลนครตรัง เดินหน้าโครงการปรับปรุงผิวจราจรพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต 15 สาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขราคายางตกต่ำ โดยซ่อมแซมถนนที่มีอายุการใช้งานเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด เพื่อให้ถนนในเขตเทศบาลนครตรัง มีความสวยงาม ลดอุบัติเหตุ
เทศบาลนครตรัง : นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า สภาเทศบาลนครตรังอนุมัติจ่ายเงินสะสม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหายางพาราตกต่ำ จำนวน 122,150,000 บาท ตามโครงการปรับปรุงผิวจราจรพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต จำนวน 15 โครงการ
ประกอบด้วย ถนนสายหลังตลาดสด, ถนนกันตัง, ถนนห้วยยอด, ถนนภายในสนามกีฬาทุ่งแจ้ง, ถนนวิเศษกุล ซอย 5 , ถนนวิเศษกุล ซอย 7, ถนนควนคีรี, ถนนเลียบทางรถไฟ, ถนนราชดำเนิน, ถนนรัษฏา ซอย 9, ถนนรัษฎา, ถนนพระรามหก, ถนนน้ำผุด, ถนนเจิมปัญญา, และถนนภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์
สืบเนื่องจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้แจ้งให้ อปท.จัดทำโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนที่มีส่วนผสมของยางพารา หรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่ใช้ยางพาราเป็นลำดับแรกเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราจากปัญหาราคาตกต่ำ
โดยให้ อปท.รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการเรื่อยมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มีหนังสือลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติการใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งจากหนังสือฉบับดังกล่าว
นางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง มีหนังสือลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 ถึงนายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นายกเทศมนตรีนครตรัง และนายกเทศมนตรีเมืองกันตัง เพื่อดำเนินการโครงการต่างๆที่ใช้ยางพาราเป็นส่วนผสม เพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
สำหรับโครงการพัฒนาเทศบาลนครตรังโดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนสายต่างๆไม่ได้มีการปรับปรุงพื้นผิวจราจรมาหลายปี เกิดสภาพปัญหาถนนลื่นเป็นหลุมเป็นบ่อเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้รถใช้ถนน นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง กล่าวว่าเพื่อให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ป้องกันอุบัติภัยที่เกิดกับผู้ใช้รถใช้ถนน
เนื่องจากการเสื่อมสภาพของถนนหลายสายที่ใช้งานมาหลายปี อีกทั้งเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ความเดือดร้อนของภาคเกษตรกรชาวตรัง ซึ่งปลูกยางพาราเป็นอาชีพหลัก จึงเดินหน้าโครงการปรับปรุงผิวจราจร พาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร
โดยการปรับปรุงถนนทั้ง 15 สายนั้น มีการสำรวจโดยช่างผู้ชำนาญการ วิเคราะห์ออกแบบอย่างเหมาะสม หากดำเนินการโครงการดังกล่าวจะใช้น้ำยางพาราประมาณ 71 ตัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ
ขณะที่นายยงยุทธ เบญจวรางกูล ผู้อำนวยการส่วนการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการช่าง เปิดเผยว่า ปกติถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตทั่วไปที่มีผิวหนา 5 เซนติเมตร จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นจะใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ถนนเสื่อมสภาพ
ซึ่งในตอนนี้ถนนบางสายมีน้ำขัง เป็นหลุม มีรอยแตกแยก หรือแม้แต่ถนนลื่นทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อผู้ใช้รถใช้ถนนบ่อยครั้ง ถนนที่เกิดรอยแตกทำให้น้ำซึมเข้าไปทำลายโครงสร้างของชั้นทางอาจทำให้ถนนทรุดตัวเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งจากการสำรวจถนนเส้นต่างๆภายในเขตเทศบาลนครตรัง เช่น ถนนหลังตลาดสดเทศบาลฯใช้งานมานานกว่า 10 ปี
โดยไม่ปรากฏว่าปรับปรุงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ถนนกันตัง ปรับปรุงครั้งสุดท้ายก่อนปี 2552 ส่วนถนนสายอื่นๆ มีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ยกเว้นถนนพระราม 6 ปรับปรุงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2556 แต่เนื่องจากมีการจราจรหนาแน่น ทำให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
อย่างไรก็ตามโครงการปรับปรุงผิวจราจรพาราแอสฟัลท์ติกคอนกรีต นอกจากเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำแล้ว สิ่งที่ได้ตามมาคือพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง ได้ใช้ถนนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกทางหนึ่ง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: