ร้องสื่อ กรรมการอิสลามตรัง ฝ่ายบัญชีแฉแหลกตรวจสอบพบ ฝ่ายฮาลาลหมกเม็ด แอบให้ผู้ประกอบการโอนเงินเข้าบัญชีเถื่อน แถมเบิกจ่ายกันเองสูญเงินกว่า 6 แสน ร้องเรียนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแต่เรื่องเงียบ ย้ำทำงานมากว่า 20 ปี พบยุคนี้อัปยศที่สุด
ร้องสื่อ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายสมาน ลิประพันธ์ กรรมการฝ่ายกิจการพิเศษ นายสุการ อะเส็ม ฝ่ายการเงิน นายศรีเจริญ บูรณจันทร์ เลขานุการฯ และนายสมาน แสงสรรค์ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดฯ จ.ตรัง นำเอกสารข้อบังคับและหนังสือที่ส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของประธานและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังบางคน เกี่ยวกับการระบบบัญชี-การเงิน ในโครงการร้านอาหารฮาลาล ของสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง
ที่ตรวจสอบพบว่ามีพิรุธหลายเรื่องโดยเฉพาะ มีการโอนเงินเข้าในบัญชีเถื่อนที่มีการเปิดขึ้นมาซ้ำซ้อนกับบัญชีสำนักงานฯและมีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 600,000 บาท โดยไม่ผ่านฝ่ายการเงินและบัญชีกลาง ของสำนักงานฯ และที่สำคัญไม่มีใบเสร็จและเอกสารหลักฐานที่แน่ชัด และเมื่อมีการทวงถามและทำหนังสือไปยังประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังและสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเพื่อให้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรื่องกลับเงียบหาย ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับคณะกรรมฯที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมากเนื่องจากพฤติกรรมเช่นนี้ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาทุจริตอย่างชัดเจน
นายศรีเจริญ บูรณจันทร์ เลขานุการ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหามาสะสมมานานแต่ยังไม่ได้มีการแก้ไข ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนไปหลายฝ่ายทั้งระดับจังหวัดและระดับภาค แต่เรื่องก็เงียบหาย ซึ่งที่วิตกคือล่าสุดประธานคณะกรรมการฯมีการกำหนดเรียกประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังในวันที่ 20 มิ.ย.62 นี้
และมีวาระสำคัญคือจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบชุดใหม่ทั้งหมด โดยจะมีการปรับคนเก่าออกแต่ปรับคนใหม่ที่เป็นพวกตัวเองเข้ามาทำหน้าที่แทน โดยไม่ผ่านมติที่ประชุมของคณะกรรมการฯ ซึ่งถือเป็นการผิด พ.ร.บ.มาตรา 18 (5) ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ถือว่าอัปยศที่สุด เพราะไม่มีความชอบธรรมและผิดหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น และถือปฏิบัติกันมาตลอด และยิ่งจะสร้างความแตกแยก
และเป็นร้อยราวเพิ่มขึ้นในคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังมากขึ้นไปอีก จนอาจกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมขาดความเชื่อมั่นของสังคมมุสลิมโดยรวมต่อไปได้ อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรังถือเป็นองค์กรเล็กๆ แต่กลับมีการเบิกจ่ายเงินไปถึง 600,000 บาทโดยพลการ ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก มีเจตนาทุจริตอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าวิตกและน่าอับอายคือ ไม่มีฝ่ายใดทักท้วงหรือมีบทลงโทษใดๆกับผู้กระทำความผิดนั้น
พวกตนซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรงรู้สึกรับไม่ได้กับพฤติกรรมเช่นนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะปล่อยไว้จะเป็นเหมือนมะเร็งร้ายที่เกาะกิน ผู้กระทำความผิดลอยนวล เหิมเกริม อย่างต่อกันควบคุมได้อีกต่อไป ที่สำคัญผู้ที่ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง คือนายวีระ เจริญฤทธิ์ ต้องมีความเป็นธรรม เที่ยงตรง ไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง จึงเหมาะสมจะเป็นผู้นำต่อไป หรือถ้าคิดว่าบริหารให้เกิดความเป็นธรรมที่ถูกต้องไม่ได้ จะลาออกพร้อมกันทั้งคณะฯ พวกตนก็พร้อม เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
นาย สุการ อะเส็ม คณะกรรมการฯฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายการเงินของสำนักงานฯ มานาน 20 ปี ไม่เคยพบเคยเจอพฤติกรรมผิดรูปผิดแบบ เช่นนี้มาก่อน ตอนนี้ยอมรับว่าหนักใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ขึ้นได้ ถือเป็นความผิดพลาดและล้มเหลวอย่างยิ่งของกรรมการฝ่ายฮาลาล ที่ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นความอับอายและขายหน้า แบบอธิบายไม่ถูก จำเป็นต้องออกมาร้องเรียนเรียนสื่อฯ เพื่อให้รับรู้ไปถึงประชาชนพี่น้องชาวมุสลิมช่วยกันตรวจสอบ เพราะหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ตนเชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน เพราะมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นมากมาย แต่เมื่อมีผู้ทักทวงกลับถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามจ้องที่จะทำลายกัน เป็นฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ ทั้งๆที่พวกตนตั้งใจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ยึดความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ
