เกษตรกร หัวใสล้มต้นยางพาราเนื้อที่กว่า 5 ไร่ หันมาปลูกน้อยหน่า 3 ไร่ ทำสวนเกษตรผสมผสานอีก 2 ไร่กว่า เพียง 2 ปี เริ่มเก็บน้อยหน่านอกฤดูกาลขายสร้างรายได้ให้อย่างงดงาม
เกษตรกร วันนี้ (11 ก.ย.62) ที่บ้านสวนกรกานต์ หมู่ที่ 7 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง พบเกษตรกรสองสามีภรรยาที่ตัดสินใจตัดโค่นต้นยางพาราเนื้อที่กว่า 5 ไร่เพื่อหันมาปลูกน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องบนเนื้อที่ 3 ไร่ และทำสวนเกษตรแบบผสมผสานอีก 2 ไร่กว่า เนื่องจากเห็นว่าราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง
จึงพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสประกอบกับในจังหวัดตรัง ไม่มีเกษตรกรรายใดปลูกน้อยหน่าขาย จึงสั่งต้นพันธุ์น้อยหน่ามาจากโคราชกว่า 300 ต้น เพียง 2 ปี ก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขาย ในราคากิโลกรัมละ 65 บาท โดยเก็บอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ๆ ละประมาณ 80-90 กิโลกรัม ทำให้มีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาท
โดยเริ่มเก็บมาแล้ว 4 รอบ หรือประมาณเกือบ 500 กิโลกรัม ขายทั้งหน้าสวน และขายทางออนไลน์ ทำให้ผลตอบรับดีมากจนไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งเกษตรกรเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยโดยไม่ใช้สารเคมี หมั่นตัดแต่งกิ่งเพื่อทำสาว (เป็นวิธีการบังคับให้ออกลูกนอกฤดูกาล) และมีผลให้เก็บได้ตลอดทั้งปี
โดยลูกใหญ่ที่สุดหนักถึง 1.2 กิโลกรัม ลูกค้านิยมบริโภคเนื่องจากลูกใหญ่ เนื้อหนา รสหวานกำลังดี หอมและเม็ดน้อย โดยนายนาวี จันทร์กระจ่าง อายุ 47 ปี เจ้าของสวนและภรรยา ได้เปิดสวนน้อยหน่าให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อ
เลือกตัดผลเองจากต้น พร้อมให้ชิมแก้วมังกร เสาวรส ฝรั่ง และอื่น ๆ ที่มีอยู่ในสวน พร้อมเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ยังพร้อมให้คำแนะนำฟรี สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะปลูกน้อยหน่าเป็นรายได้เสริมที่ตอนนี้กลายเป็นรายได้หลักของครอบครัวไปแล้ว
โดยนายนาวี จันทร์กระจ่าง กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ที่ 400-500 กิโลกรัม แต่ละรุ่นได้ประมาณ 80-90 กิโลกรัม มีลูกค้าทั่วไป แม่ค้ามาซื้อ และขายหน้าสวน โดยมีลูกค้าที่มาซื้อในสวนให้เลือกเองและตัดจากต้น กิโลกรัมละ 65 บาท ผลตอบรับดีมาก ช่วงนี้ออกมาผลผลิตไม่พอขาย ส่วนใครที่สนใจเข้ามาได้ที่บ้านสวนกรกานต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 063-5392475
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: