X

ดราม่าหนักมาก เมื่อลูกเขยซาไกรู้ว่าสังคมมองตนว่าจัดงานศพหวังเงินทำบุญ

ดราม่าหนักมาก เมื่อลูกเขยซาไกรู้ว่าสังคมมองตนว่าจัดงานศพหวังเงินทำบุญ พร้อมตอบทุกประเด็ดทุกคำถามและยิ้มให้อภัยทุกคนที่มองตนผิดไปเพราะจัดงานศพเพื่อรอญาติและครอบครัวซาไกมาร่วมบุญเท่านั้น

วันที 3 พฤษภาคม 2561  เวลา 16.00 น. บริเวณถนนสายเก่าเส้นทางชมธรรมชาติ บนเทือกเขาบรรทัดแนวเขตอุทยานแห่งชาติ เขาปู่ เขาย่า ใกล้ๆ ศาลทวดหลักเขต ได้พบกับเต็นท์ ขนาด 5*10 เมตร จำนวน 2 หลัง หลัง1 เป็นที่สำหรับให้ผู้คนมานั่งพัก และอีกเต็นท์เป็นที่ตั้งโลงศพ ของนายวี ศรีธารโต อายุ 62 ปี บิดาของ นางกบ ศรีธารโต (ซาไกที่ขายสมุนไพร) ที่ริมถนนเขาพับผ้าสายรอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง-พัทลุง ฝั่ง อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งจัดขึ้นแบบเรียบง่าย ตามมีตามเกิด

นายโสพิศ  ขุนชิต หรือ อู๊ด อายุ 62 ปี  เป็นลูกเขยของผู้ตาย และเป็นสามีของนางกบ ศรีธารโตลูกสาวของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่ นายวี ศรีธารโต จะเสียชีวิต ได้มีการเจ็บป่วย ปวดท้องตนได้นำนายวีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง แต่จากการตรวจรักษาของแพทย์พบฝีในท้องเลยส่งนายวีไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลพัทลุง อยู่หลายวันแต่จำนวนฝีมีมากและกำลังจะสุก ทางแพทย์เองก็พยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ  สุดท้ายฝีก็แตกในช่องท้อง และทำให้นายวีเสียชีวิตในวันที่ 1 พฤษภาคม  2561

เมื่อนายวี เสียชีวิตตนเองได้คุยกับภรรยา คือนางกบว่าจะยกศพให้ทางมูลนิธิไปจัดการเพราะตนเองมีฐานะยากจน แต่ลูกๆบอกว่าพ่อน่าจะตั้งศพปู่สัก2-3 วันเพื่อให้พระมาสวด ตนเองก็เกิดความสงสารหลาน เลยขอโลงศพจากพัทลุงการกุศลมูลนิธิ ช่อเต็กซี่ยงตึ้ง  จังหวัดพัทลุง เพื่อบรรจุร่างของนายวี และได้นำศพมาส่งที่ทับ หรือที่พักบริเวณบริเวณถนนสายเก่าเส้นทางชมธรรมชาติ บนเทือกเขาบรรทัดแนวเขตอุทยานแห่งชาติ เขาปู่ เขาย่า และตนเองได้รับการสนับสนุนเต็นท์ จาก อบต.บ้านนา เพื่อมาตั้งศพ จากนั้นบรรดาเงาะป่าซาไกก็ได้ไปเก็บดอกไม้ เถาวัลย์ และต้นปุด (พืชตระกูลข่า) มาประดับตกแต่งรอบเต็นท์ และโลงศพ

เมื่อถามว่าทำไมถึงตั้งศพนานถึง 7 วัน ก็ได้คำตอบจากนายโสพิศ  ขุนชิต หรือ อู๊ด  ว่าเงาะป่าซาไกมีความเป็นคนเมืองมากขึ้นมีการตั้งที่อยู่เป็นหลักแหล่งมากขึ้น เช่น การอยู่กระท่อมในสวนยางพารา หรือสวนปาล์ม มีการมาซื้อขายของในตลาดนัด  ตนเองเลยตั้งศพไว้ให้ญาติๆและผู้นำกลุ่มของซาไกได้มาร่วมงานศพแค่นั้นเอง

จริงหรือไม่ที่สังคมมองว่าจัดงานศพเงาะป่าซาไกหวังเงินทำบุญ?  นายโสพิศ  ขุนชิต หรือ อู๊ด ลูกเขยของเงาะป่าซาไก คนจัดงานศพ กล่าวพร้อมยิ้มว่า ไม่เป็นความจริง ตนเองไม่เคยแม้แต่จะคิด อย่างว่าแหละคนจน คนยากไร้ ก็ย่อมถูกมองถูกดูถูกเป็นธรรมดา ขนาดผม(นายโสพิศ  ขุนชิต) มาอยู่กินเป็นสามี-ภรรยากับนางกบซึ่งเป็นเงาะป่าซาไก คนเค้ายังมอดูถูกเลย  แต่ผม ไม่โกรธและโทษเค้าเพราะความไม่รู้ของเค้าจึงทำให้เค้าคิดเช่นนั้น ถ้าผมจะค้าศพ จัดงานศพเงาะป่าซาไกหวังเงินทำบุญ ผมมามาตังในป่าตรงนี้ ผมจะไปตั้งใกล้ถนนใหญ่ไม่ดีกว่าหรือ คนเห็นมากเค้าจะได้มาทำบุญมาก นี้ผมมาตั้งในป่า หลบจากผู้คนแล้ว และผมเองไม่ได้ร้องขอเงินจากใครให้มาช่วย ส่วนกล่องบริจาคที่นำมาตั้งไว้ที่หน้าโลงศพ เพราะมีคนมาไหว้ศาลทวดหลักเขตแล้วลงมาดูอยากทำบุญให้คนตาย เลยให้เค้าเอาเงินใส่ในกล่องบริจาค

เงินที่ได้จากการบริจาคจะเอาไปไหน? คำตอบที่ได้คือจะเอาเงินที่ได้ไปเป็นค่าเผ่าศพนายวี และส่วนหนึ่งตนเองได้ให้ภรรยาออกไปขายสมุนไพรนำเงินที่ได้มาสมทบอีกทางหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวเองก็ได้ใช้สังเกตอยู่บริเวณเต็นท์ตั้งศพนายวี ศรีธารโต กว่า 3 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 16.00-19.30 น. ก็พบกับบรรยากาศที่เงียบ มีชาวบ้านขับรถมาที่เต็นท์ 1คน จากการสอบถามก็ทราบว่าเป็นลูกค้าที่เคยซื้อสมุนไพรจากนางกบ  ทราบข่าวการจัดงานศพของเงาะป่าซาไกจากป้ายไวนิลข้างถนนเลยขับรถลงมาทำบุญ และได้มอบเนื้อหมู 2 กก.ไว้ปรุงอาหารต่อไป ต่อมา ก็มีเงาะป่าซาไกเดินขึ้นมาจากทับ จำนวน 2 คน จากการพูดคุยก็ทราบชื่อนางแดง และนายสมจิต  ศรีธารโต เป็นสามีภรรยากัน นายสมจิต กล่าวว่า ตนเองและภรรยามาดูศพของนายวี ซึ่งเป็นพี่เขยของผม ผมเดินทางมาจาก อ.มะนัง จ.สตูล และก่อนจะค่ำก็มีเงาะป่าซาไกอีก 3 คนมานั่งในเต็นท์ที่ตั้งศพ  ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่าเต้นท์ที่ตั้งศพมีป้ายไวนิล อยู่ 3 แผ่นที่มีความว่า คิดบวก ชีวิตบวก มงคลชีวิต และปัญหา จากการพูดคุยก็ทราบว่าเป็นของนายโสพิศ  ขุนชิต ที่ทำขึ้นเพื่อไว้สอนลูกๆ และไว้เตือนสติตนเอง

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน