คืบหน้า ผู้การฯ ตรัง ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุหลังจากรวบตัวดาบตำรวจเมาคลั่งกราดยิงบ้าน ส.ส.ปชป.เขต 3 ตรัง และบ้านอดีตประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนฯ ที่ผ่านมาอภัยมาตลอด ดาบตำรวจผู้ก่อเหตุ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมให้ดำเนินคดีขั้นสูงสุด
คืบหน้า เวลา 07.30 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2562 พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูลศักดิ์ เซ็งแซ่ รอง ผกก.อำนวยการ ปจว.ตรัง รักษาการแทน ผกก.สภ.ย่านตาขาว ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช ร้อยเวรสอบสวน สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.จุลพงศ์ อัตบุตร สารวัตรสืบสวน สภ.ย่านตาขาว
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุที่คนร้าย คือ ด.ต.สุรพงค์ จิตรบุญ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/11 หมู่ที่ 1 ซอยสันติสุข ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ปัจจุบันเป็นตำรวจสายตรวจ สภ.ย่านตาขาว
ใช้อาวุธปืน .357 สมิทแอนเวสสัน ไม่มีทะเบียน ยิงไป 5 นัด เหลือ 1 นัดมีการใช้งานแต่ไม่ลั่น และอาวุธปืน .11 มม. มีทะเบียน บรรจุ 10 นัด ยิงหมดกระสุนหมดแม็ก โดยยิงบ้านเลขที่ 226 ถ.ตรัง-ปะเหลียน อ.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ และนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ (พ่อ) อดีต ส.ส.ตรัง หลายสมัย และอดีตประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดนประตูรั้วบ้านทะลุ 1 นัด พบปลอกกระสุน 1 ปลอก ส่วนกระสุนปืนอีกนัดวิถีกระสุนเจาะต้นไม้หน้าบ้าน
ทั้งนี้ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในบ้านมีภรรยา และลูกที่อยู่ในบ้าน พอกลับมาถึงบ้านพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เต็มบ้านแล้ว ตอนเกิดเหตุจากกล้องวงจรปิดมี ด.ต.สุรพงค์ จิตรบุญ มาเขย่าประตูบ้านและยิงปืนเข้ามาในบริเวณบ้านประมาณ 10 นัดซึ่งตอนหลังมาทราบว่าใช้ปืน 2 กระบอก .357 และ .11 มม.โดนรั้วบ้าน โดนต้นไม้ด้วย
สำหรับตัวผู้ก่อเหตุตนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย แต่ทราบข่าวว่าเขาติดยา เวลาที่เขาช็อกต้องนึกถึงตนเองก่อนเพราะคิดว่าตนต้องให้ตำรวจไปจับตอนที่เขาเสพยา เขามาก่อเหตุแบบนี้กับตนหลายครั้ง ขับรถมาขวางประตูบ้านไม่ให้เข้าบ้าน โชคดีที่ตนมาหลายคนจึงให้คนอื่นลงไปเคลีย เขาสั่งมาให้บอกตนเองว่าอย่าไปรังแกเขา จะรังแกอย่างไรในเมื่อตนเองไม่รู้จัก
ทุกครั้งที่เกิดเหตุจะประมาณเที่ยงคืนซึ่งอาจจะเป็นเวลาที่เขาเสพยาพอดี ทำให้จิตใต้สำนึกเขาคงจะมีอยู่ว่าตนจะให้ตำรวจไปจับเวลาที่เขาเสพยาจึงเกิดความรู้สึกนี้ฝังใจจะต้องมาหาตนเองทุกครั้ง แต่เหตุการณ์เมื่อคืนค่อนข้างรุนแรง ทราบข่าวว่าหลังจากที่เข้ามายิงปืนใส่บ้านตนเองเสร็จแล้วเขากลับไปอยู่บ้านที่หน้า สภ.ย่านตาขาว ตำรวจสายสืบได้ตามไปปรากฏว่าได้ชักปืนยิงสารวัตรสืบสวน
โชคดีว่าตำรวจคว้าไว้ได้ทันปืนลั่นแต่ไม่โดนใครได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงควบคุมตัวไปโรงพัก ก็ต้องรอกระบวนการสอบสวนในส่วนตัวตนเองก็เห็นใจแต่ที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้เพราะเขาติดยา ส่วนสาเหตุอื่นก็ไม่มีเหตุโกรธเคืองกัน ตนเองก็ไม่รู้จัก ทั้งนี้แม่ของผู้ก่อเหตุเคยบอกเขาว่าตนเองเคยว่าความเป็นทนายความว่าความให้พ่อผู้ก่อเหตุฟรีไม่คิดเงิน เขามีบุญคุณกับครอบครัวเรานะ ซึ่งเมื่อมามีเหตุการณ์แบบนี้ตนเองก็ช่วยอะไรไม่ได้
เนื่องจากเขามีอาการช๊อตตลอดเวลาในยามลงแดง ขั้นตอนต่อไปก็มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ซึ่งผู้การฯ ได้ลงมาตรวจที่เกิดเหตุซึ่งเมื่อคืนที่ได้ทราบข่าวก็เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุร่องรอยกระสุน ก็ให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ตำรวจที่ดีมีเยอะส่วนตำรวจประเพศนี้มีน้อย
ตนเองก็เห็นใจเขาที่เขาตกอยู่ในสภาวะอย่างนี้ซึ่งไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พอติดยาเสพติดเต็มที่ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ต้องให้ทางตำรวจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ล่าสุด ดาบตำรวจผู้ก่อเหตุ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมให้ดำเนินคดีกับดาบตำรวจผู้ต้องหาขั้นสูงสุด
