กทม. ยอมถอย หยุดจับสุนัขจรจัดชั่วคราว เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติและข้อกำหนดต่างๆ ยกเว้นสุนัขที่อาจจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าและสร้างอันตรายให้กับคนในชุมชนจนเกิดการร้องเรียน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดูแลสุนัขจรจัด ร่วมกับ คุณเก๋ ชลลดา เมฆราตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธาน “มูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกปัญหาการจับสุนัขจรจัดของ กทม. โดยเบื้องต้น กทม. ได้สั่งการให้สำนักงานเขตส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาอบรมแนวทางการจับสุนัขจรจัดอย่างถูกวิธี เขตละ 6 คน โดยปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีสุนัขจรจัดทั้งหมดประมาณ 150,000 ตัว ส่วนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับไปยังศูนย์กักสุนัขของ กทม. และมีเจ้าของรวมถึงกลุ่มคนรักสัตว์เข้าไปรับกลับมาเลี้ยงบางส่วน
ผู้ว่าฯ อัศวิน ระบุว่า เดิมที่เป็นปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการที่กลุ่มคนรักสัตว์บางกลุ่มเข้าใจผิดว่า กทม. จับสุนัขทุกตัวโดยไม่มีกฎเกณฑ์อะไร ซึ่งจริงๆแล้ว กทม. จะดำเนินการจะเฉพาะสุนัขที่มีการร้องเรียนเข้ามาหรือมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคที่ติดต่อสู่คน จากการหารือกับมูลนิธิ “เดอะวอยซ์ เสียงจากเรา” ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มคนรักสัตว์ ผู้ว่าฯ อัศวิน ได้สั่งให้หยุดการจับสุนัขจรจัดของ กทม. ไว้ก่อน เพื่อหาทางออกและแนวทางที่ถูกต้อง
ข่าวน่าสนใจ:
ด้าน คุณเก๋ ชลลดา เมฆราตรี ผู้ก่อตั้งและประธาน “มูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา” ระบุว่า การเข้าประชุมร่วมกับ กทม. ครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การหาทางออกในการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดได้อย่างยั่งยืน และการเข้ามาของมูลนิธิ ไม่ได้มาเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มคนรักสัตว์อย่างเดียว แต่จะเป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มคนที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์แต่ต้องอยู่ร่วมกับชุมชนที่เลี้ยงสัตว์ด้วย เชื่อว่าอีก 100 วันข้างหน้าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยทางมูลนิธิฯได้เสนอแนวทางปฏิบัติและแผน 15 ปีให้กับ กทม. ในการขอความร่วมมือให้ประชาชนจำกัดและควบคุมปริมาณการเกิดของสุนัขจรจัดใน กทม. เพราะอายุโดยเฉลี่ยของสุนัขไทยอยู่ที่ 15 ปี และถ้าหากปฏิบัติตามแผนนี้ เชื่อว่าสุนัขจรจัดจะหมดไป
สำหรับชุมชนที่มีสุนัขอยู่ในชุมชนแล้วไม่สร้างความเดือดร้อน ทาง กทม. ก็จะไม่เข้าไปจับ แต่ถ้าหากสุนัขในชุมชน ทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาขน รวมถึงมีการร้องเรียนเข้ามา ทาง กทม. ก็จำเป็นที่จะต้องเข้าไปดำเนินการ ทั้งนี้ภายในวันศุกร์นี้ กทม. จะตั้งคณะกรรมการเพื่อประชุมและหาแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: