นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง รายงานจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ที่ระบุว่า พายุดีเปรสชันปาบึกได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง มีแนวโน้มว่าจะอ่อนกำลังลงอีก และสลายตัวไปตามลำดับ ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดเขาไปสำรวจความเสียหายและเยียวยาผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ช่วงที่ผ่านมาหลายจังหวัดได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุปาบึก สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าหักโค่น น้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างทั้งที่พักอาศัยและพื้นที่การเกษตร ถนนถูกตัดขาด และประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่เมื่อพายุเคลื่อนผ่านไปแล้วและประชาชนเริ่มทยอยกลับเข้าที่พัก จึงได้สั่งการให้แต่ละจังหวัดส่งเจ้าหน้าที่ลงไปติดตามสภาพความเป็นอยู่ และเร่งสำรวจประเมินความเสียหาย ฟื้นฟูซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง และเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการ”
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และระวังอันตรายจากฝนที่ยังตกหนักในบางพื้นที่ เช่น จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง เพราะอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้
ซึ่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) ในเวลา 06.45 น. ไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช และเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปริมน้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พบจิตอาสาปล่อยแถวจิตอาสา Big cleaning Day
จากนั้น ในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะเดินทางไปยังสามแยกตาขำ เพื่อรับฟังการรายงานสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุปาบึก จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและพบผู้ประสบภัย จำนวน 2,000 คน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี จะตรวจกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า และตรวจสภาพความเสียหายคือแหลมตะลุมพุก
ทั้งนี้ ในเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะเดินทางไปโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ อำเภอปากพนัง เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียน ก่อนเดินทางไปยังตำบลปากนคร เพื่อพบปะประชาชนและตรวจการซ่อมบ้านเรือนที่เสียหาย จากนั้นจะลงเรือข้ามฟากไปตำบลท่าไร่ เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย ก่อนเดินทางกลับในช่วงเย็น
