บรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง ที่ได้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการประตูกั้นน้ำคลองปากประ จ.พัทลุง , โครงการการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง , โครงการเขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ , โครงการเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง และโครงการคลองผันน้ำเมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช มาตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2562 นั้น ซึ่งได้เคลื่อนขบวนมาปักหลักข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอคำตอบจากรัฐบาลภายหลังการประชุม ครม. วันนี้
ซึ่งเดิมทางเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง มีข้อเรียกร้องดังนี้
1. ให้ “ยุติการดำเนินโครงการ” ประตูกั้นน้ำคลองปากประ จ.พัทลุง , โครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง , โครงการเขื่อนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ , โครงการเขื่อนวังหีบ อ.ทุ่งสง และโครงการคลองผันน้ำเมืองนคร จ.นครศรีธรรมราช และให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนได้รับทราบ ได้แสดงความคิดเห็นและสามารถเสนอทางเลือกอันหลากหลายในการบริหารจัดการน้ำและทรัพยากรอย่างยั่งยืน
2. ส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำและทรัพยากรเชิงระบบ ที่ตั้งอยู่บนฐานความยั่งยืนทางนิเวศ ภูมิปัญญา ภูมินิเวศ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น
3. ให้ “ทบทวนการดำเนินโยบายและโครงการพัฒนาในภาคใต้” ที่อาจก่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ละเมิดสิทธิมนุษยชน ความสุขและความมั่นคงของชุมชน และให้ความสำคัญกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง
โดย นายเรียง เจกะพันธ์ ตัวแทนเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่า นครศรีธรรมราช-พัทลุง ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับการประสานงานจากรัฐบาลว่าจะขอให้ถอยกันคนละก้าว โดยทางกลุ่มยอมรับการถอย แต่มีเงื่อนไขว่า
1. ต้องมีคนกลางจากรัฐบาลเข้ามาเปิดวงคุยและเจรจากันระหว่างชาวบ้านและผู้ดำเนินโครงการ
2. เดิมทางกลุ่มเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการ แต่ตอนนี้ขอให้รัฐบาลยุติโครงการชั่วคราวก่อน และมาศึกษาข้อมูลจากชาวบ้านก่อน เช่น การออกพระราชกฤฏีกาเวณคืนที่ดิน , การยกเลิกพื้นที่ป่าชั้น 1A ที่วังหิน , การขอใช้พื้นที่ สปก.
ซึ่งทางกลุ่มเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องที่เจรจากันได้ พร้อมทวงถามผ่านสื่อมวลชนถึงการถอนหนึ่งก้าวของ กรมชลประทานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คืออะไร ถอยได้มากน้อยแค่ไหน และ ยอมยุติกระบวนการดังกล่าวที่เรียกร้องหรือไม่ และยืนยันว่าทางเครือข่าวพร้อมที่จะเจรจา นายเรียง เจกะพันธ์ ตัวแทนเครือข่าย ระบุว่า ถ้าหากไม่ได้รับการเจรจาจากรัฐบาลในวันนี้ มองว่าจะยกระดับการชุมนุมให้เป็นเรื่องของภาคใต้ทั้งหมด และชวนประชาชนในภาคใต้ทั้งหมดมาที่ทำเนียบรัฐบาลและพร้อมจะแตกหักกับใครก็ได้ ซึ่งยืนยันว่ามีประขาขนที่พร้อมจะเข้าร่วมในครั้งนี้ ซึ่งเชื่อว่า จะไม่เกินเหตุการณ์ยกระดับดังกล่าว โดยเฉพาะใกล้เวลาเลือกตั้งแบบนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: