กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะรวมตัวกันทวงถามกับสำนักงานขนส่งถึงการดำเนินการกับแอพพลิเคชันที่เรียก รถขนส่งสาธารณะผิดกฎหมาย
(15 มี.ค.62)กลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างิจากหลากหลายเขตของกรุงเทพมหานคร ในนามกลุ่ม “เพื่อนแท้ชาววิน” นัดรวมตัวเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 บางจาก เรียกร้องให้กรมการขนส่งดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้ขับขี่รถจักรยายนต์รับจ้างผ่านแอพพลิเคชันต่างๆ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มฯเคยรวมตัวไปยื่นหนังสือแบบนี้มาแล้วที่บริษัทต้นสังกัตจองแอปพลิเคชั่นต่างๆ
โดยทางด้านของตัวแทนกลุ่ม นางสาว ปัทมศรี ไกรรส ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเคยยื่นหนังสือต่อศาลปกครองแล้ว และเคยยื่นหนังสือแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว พร้อมทั้งระบุถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือนอกจากต้องต่อสู้กับผู้ที่ใช้จักรยานยนต์ส่วนบุคคล(ป้ายขาว) มาวิ่งแล้วยังต้องต่อต่อสู้กับรถจักรยานยนต์รับจ้าง(ป้ายเหลือง)ที่วิ่งนอกเขตด้วย โดยก่อนหน้านี้เคยมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างสมาชิกกลุ่มกับ รถจักรยานยนต์ป้ายขาวมาแล้ว
ขณะที่ระหว่างนัดรวมตัวกัน สมาขิกกลุ่มได้เปิดคลิปการกระทบกระทั่งกันของสมาชิกกลุ่มและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งภายในคลิป สมาชิกกลุ่มได้ทวงถามว่านำรถป้ายขาวมาวิ่งรับผู้โดยสารได้อย่างไร และทางรถป้ายขาวคู่กรณีกลับวิ่งทับเท้าของสมาชิก จึงเกิดปากเสียงกัน ซึ่งไม่ได้มีเพียงคลิปเดียว เนื่องจากทางกลุ่มก็พยายามที่จะทำตามช่องทางต่างๆที่หน่วยงานรัฐเปิดช่องทางให้ร้องเรียน แต่สิ่งที่ผู้ร้องได้รับกลับมาคือ คู่กรณีให้การปฏิเสธ หรือ พนักงานสอบสวนมีองค์ประกอบไม่เพียงพอในการดำเนินคดี
น.ส.ปัทมศรี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทางกลุ่มไม่ได้ปฏิเสธการใช้แอปพลิเคชัน แต่อยากเรียกร้องให้แอพพลิเคชั่นต่างๆดำเนินการอย่างถูกกฎหมายตามที่กรมการขนส่งได้มีระเบียบออกมา และเรียกร้องให้แอพพลิเคชั่นต่างๆมีการกำหนดจุดรับและส่งผู้โดยสารไม่เกินเขตของวินนั้นๆ
ข้อความส่วนหนึ่งจากการยื่นหนังสือวันนี้แล้ว ทางกรมขนส่งแนะนำให้ผู้ขับขี่ นอกจากถ่ายคลิปให้เห็นว่า มีการรับผู้โดยสารจริง เห็นป้ายทะเบียน เห็นใบหน้าของผู้ขับขี่ และรับผู้โดยสารด้วยแอพพลิเคชั่นใด ทั้งนี้ต้องไม่ใช้กำลังกักขังหน่วงเหนี่ยวกันและกัน
ด้านนายสุรพล ภูรัติศัย สมาชิกชมรมฯ ได้ให้เหตุผลว่า ปกติแล้วถือเป็นมารยาทของจักรยายนต์รับจ้าง ที่จะไม่วิ่งข้างเขตกันและกัน โดยแต่ละวินจะมีขอบเขตที่ตกลงกันไว้ ซึ่งแตกต่างจากรถแท็กซี่ เส้นขอบเขตในการวิ่งนั้น ก็เป็นสิ่งที่กรมการขนส่งเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอ
โดยกลุ่มผู้ขับขี่ฯ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทางด้านของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยมีคำสั่งให้แอพพลิเคชั่น เรียกรถจักรยานยนต์สาธารณะมารับ หยุดให้บริการ แต่ทางกลุ่มผู้ขับขี่ตั้งข้อสงสัยว่า “ทำไมปัจจุบันยังมีการวิ่งอยู่ ?” และหากยังไม่ได้รับความชัดเจนก็จะเริ่มเข้าไป ยื่นหนังสือแบบนี้อีกที่กรมการขนส่งเขตอื่นๆ
สำหรับสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 บางจากเมื่อรับเรื่องแล้วจะดำเนินการส่งเอกสารให้กับทางด้านของกรมการขนส่งทางบกซึ่งเป็นต้นสังกัดของสำนักงานแห่งนี้เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป
