“ศรีสุวรรณ” ยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบ 9 พรรคใหญ่ทำนโยบายประชานิยม แจกเงิน อาจทำให้ไทยกลายเป็นแบบเวเนซูเอล่า ถ้าหากปล่อยให้พรรคเหล่านี้ไปเป็นรัฐบาลและแจกเงินตามที่หาเสียงไว้
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ กกต. ใช้อำนาจตาม ม.57 วรรค 2 ของ พรป.การเมือง พ.ศ.2560 เนื่องจากพรรคการเมืองใหญ่ ทั้ง 9 พรรค มีการโฆษณานโยบายของตนเองที่จะมีการใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ได้แก่ พรรคเพื่อไทย , พรรคพลังประชารัฐ , พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคภูมิใจไทย , พรรคชาติพัฒนา , พรรคชาติไทยพัฒนา , พรรคอนาคตใหม่ , พรรคประชาชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย เนื่องจากนโยบายต่างๆของพรรคดังกล่าว มีลักษณะการแจกเงินมากมายจนเข้าข่ายเป็นนโยบายประชานิยม เช่น การขึ้นค่าแรง 400-425 บาท , เงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 18,000 บาท เบี้ยเลี้ยงเด็ก , เบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ และการประกันราคาข้าวหอมมะลิ
ซึ่งมาตรา 57 ระบุว่า การกําหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณาให้คํานึงถึง
ความเห็นของสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน
การประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
1.วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดําเนินการ
2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดําเนินนโยบาย
3.ผลกระทบและความเสี่ยงในการดําเนินนโยบาย
ในกรณีพรรคการเมืองไม่ได้จัดทํารายการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการสั่งให้ดําเนินการ
ให้ครบถ้วนและถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด
นายศรีสุวรรณ เห็นว่า การกระทำดังกล่าวของพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อได้รับการเลือกตั้งไปแล้วอาจไม่สามารถรับผิดชอบนโยบายที่หาเสียงไว้ไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการบริหารประเทศว่าด้วย พรบ.วินัยทางการเงินการคลังรัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งอาจทำให้ไทยกลายเป็นเหมือนประเทศเวเนซูเอล่า พร้อมกับยื่นหลังฐานของ 9 พรรคการเมืองดังกล่าวให้ กกต. พิจารณาว่านโยบายนั้นๆ ผิดกฏหมายว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้
