“อนาคตใหม่” จัดกิจกรรมระดมทุนและขอบคุณผู้สนับสนุน “ธนาธร” ไม่หวั่นกรณีที่ต้องเข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนในกรณีมาตรา 116 ในวันพรุ่งนี้ ปัดตอบเรื่องโอนหุ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ ไม่เคยระบุว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์
(5 เม.ย.62) 20.00 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้าร่วมกิจกรรม “อนาคตใหม่ไฟแรงเฟร่อ” ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท ซึ่งมีกิจกรรม อาทิ post-it wall ,ระดมทุนขายสินค้า ,รับสมัครสมาชิก ,การประมูล (กิจกรรมระดมทุน) ,การประกวดออกแบบสินค้าระดมทุนอนาคตใหม่ ของทีมกราฟฟิก และทีมตัดต่อของพรรคฯ
โดยนายธนาธร ได้พูดคุยกับผู้สนับสนุน ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ถึงการจัดกิจกรรมวันนี้ โดยบอกว่า เหตุผลอยากเชิญทุกคนเข้ามาเพื่อขอบคุณ ที่มีส่วนร่วมผลักดันให้อนาคตใหม่ประสบความสำเร็จ พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนดับอันดับที่ 1 ที่กรุงเทพฯ ทั่วประเทศเราได้คะแนนดับอันดับที่ 3 ก่อนเลือกตั้งมีนักวิชาการ เตยคาดว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้เพียงแค่ 1 ที่นั่ง ไม่มีคนเชื่อว่า พรรคจะมาได้ไกลขนาดนี้ วันสุดท้ายที่เราส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หน้าใหม่ทั้งหมด ไม่มีใครเชื่อ มีแต่คนถามจะชนะคนหน้าเดิมๆได้อย่างไร ผลคะแนนวันนี้ออกมา ก็พิสูจน์แล้ว 6 ล้านกว่าเสียง เราไม่ได้ซื้อเสียง ไม่มีอะไรนอกจากคำว่า ขอบคุณ มี 87 เสียงในมือ ทำให้เป็นพรรคฯที่มีอิทธิพล ต่อการเมือง เราได้ร่วมกับพรรคที่ต้องการหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช. ได้ 257 เสียง สิ่งที่เราทำต่อไป เราได้เชิญมาเซ็นสัตยาบัน ร่วมลงนามไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้มั่นใจ ถ้าจะมีงูเห่า จะไม่มีงูเห่าสีส้มแน่นอน
โดยภายหลังพูดคุยและตอบคำถาม ผู้สนับสนุนที่มาร่วมงาน นายธนาธรได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กรณีที่พรุ่งนี้(6 เม.ย.)ต้องไปพบกับพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ระบุว่าส่วนตัวไม่ได้เตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษรวมถึงบอกว่าหลายฝ่ายแสดงความกังวลเพราะมาตรา 116 ถือเป็นมาตราที่ร้ายแรงและอาจต้องใช้ศาลทหารเข้ามาพิจารณา พร้อมทั้งระบุว่า ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องเป็นห่วง
ขณะที่อีกหนึ่งกระแสข่าวที่มีการระบุว่า พรรคอนาคตใหม่เกณฑ์คนไปให้กำลังใจนายธนาธร เรื่องนี้นายธนาธรระบุว่า ทางพรรคไม่ได้เกณฑ์ใครไปให้กำลังใจทุกๆคนสามารถเข้ามาให้กำลังใจที่สนปทุมวันได้
ส่วนผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี “หมอก้อง” ที่โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ขับไล่ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคฯ นายธนาธร ระบุว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องนี้แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติที่นายปิยบุตรถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนกรณีที่สำนักข่าวอิศรารายงานเรื่องกรณีการโอนหุ้นให้กับมารดาของนายธนาธร เรื่องนี้นายธนาธรมองว่ามั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเองและปฏิเสธที่จะตอบคำถามในเรื่องนี้กับสื่อมวลชนอีกและจะตอบคำถามเรื่องนี้ในกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น
สำหรับข้อมูลของการคำนวณคะแนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เรื่องนี้นายธนาธร ขอกลับไปศึกษาข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากเรื่องการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแล้วพรรตเล็กที่มีคะแนนเสียงทั่วประเทศเพียง 30,000 ถึง 40,000 เสียง อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเพราะถ้าคะแนนเสียงในจำนวนนี้ ในการเลือกตั้ง ส.ส. แบบเขต ในบางเขตยังไม่สามารถชนะได้เลย ทั้งนี้ขอปรึกษาทีมงานอีกครั้งหนึ่งในการดำเนินการต่อไป
ขณะที่กรณี ตอนนี้ที่ตำรวจแถลงข่าวจับกุม 7 ผู้ต้องหา ที่แชร์เว็บไซต์ change.org ในการลงชื่อถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายธนาธร ระบุว่า หน่วยงานราชการที่มองว่าไม่ถูกต้องได้และเป็นสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนดังนั้นการจับกุมอาจเป็นการล่วงละเมิดสิทธิ์แต่ส่วนตัวไม่ขอลงรายละเอียดในส่วนนี้
โดยสำหรับการเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ยังคงยืนยันเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผย คะแนนอย่างเป็นทางการและเปิดเผยคะแนนรายหน่วย และระบุว่าการเปิดเผยคะแนนรายหน่วยไม่กระทบต่อความมั่นคง พร้อมทั้งอ้างถึงการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแต่ใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมงก็สามารถประกาศคะแนนทั่วประเทศได้
สำหรับกรณีที่ กลุ่มสยามมานุสติ มีการร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ เรื่องนี้นายธนาธรมองว่า มีกลุ่มคนมากมายพยายามกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่และไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงของกลุ่มคนเหล่านั้น พร้อมทั้งย้ำว่ากรณีที่เคยพูดเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในปีพุทธศักราช 2475 ไม่ใช่การล้มล้างสถาบันพร้อมทั้งขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้กับพรรคอนาคตใหม่
อย่างไรก็ตามนายธนาธรมองว่า ใครก็ตามที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเป็นเครื่องมือโจมตีพรรคอนาคตใหม่นั้น กลุ่มคนเหล่านั้นคือ กลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีต่อสถาบันเอง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคอนาคตใหม่ พรรคฯไม่เคยพูดในการแก้ไขมาตราที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์เพียงแต่พรรคอนาคตใหม่ตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างมรดกจากการปฏิวัติ
