“ปิยบุตร” ทราบข้อกล่าวหาแล้ว พบเกิดจากการคัดค้านยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมทั้งระบุว่าตลอดการทำอาชีพนักวิชาการก็วิพากษ์วิจารณ์ศาลมาโดยตลอด และเชื่อว่า ศาลสามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้
(17 เม.ย. 62) รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกกรณี คสช. มอบหมายให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ยื่นฟ้องคดีดูหมิ่นศาลในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ระบุว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้สืบเนื่องจาก คดีแถลงการณ์คัดค้านยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2562 โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาคือ ดูหมิ่นศาล และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ซึ่งจากการเข้าไปดูคำให้การสำนวนคดีต่างๆแล้วพบว่า ฝ่ายกฎหมาย คสช.มอบอำนาจมาให้ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของ คสช.มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งความผิดในข้อหาดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตุว่า หัวหน้า คสช. คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่
นายปิยะบุตร ยังให้ความเห็นอีกว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน องค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตย มีฝ่ายบริหารคือ คณะรัฐมนตรี , ฝ่ายนิติบัญญัติคือ รัฐสภา และฝ่ายตุลาการ คือศาล เป็นผู้ใช้อำนาจ การตรวจสอบ การวิพากษ์วิจารณ์จึงเป็นเรื่องปกติ และศาลรัฐธรรมนูญเป็นศาลที่ตัดสินคดีที่ส่งผลกระทบทางการเมือง ยิ่งต้องถูกตรวจสอบและวิพากวิจารณ์ได้ และในขณะที่ทำหน้าที่เป็นนักวิชาการ ก็วิพากษ์วิจารณ์คำตัดของศารัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ดังนั้นเกรงว่า เรื่องนี้จะเป็นปัญหาในการดำเนินคดี หากถูกตัดสินว่ามีความผิด จะทำให้ในอนาคต การวิพากษ์วิจารณ์จะมีปัญหาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
ทั้งนี้ จึงอยากให้การดำเนินคดีกับตนเอง เป็นอุทาหรณ์ว่า กฎหมายไทย ยังมีผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชน และถือเป็นจุดอ่อนของกฎหมายไทย ส่วนจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่นั้น นายปิยะบุตร ระบุว่า ตนเองก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และกระบวนการสอบสวนของไทย
โดยหลังจากนี้ นายปิยะบุตร จะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร มายื่นต่อพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 25 เม.ย. และจากการดูสำนวนข้อกล่าวหาแล้ว พบว่า มีหลายข้อความ หลายคำพูดที่กล่าวหา ไม่ตรงกับที่นายปิยะบุตรพูด ซึ่งเดิมขอระยะเวลาทำคำให้การ 15 วัน แต่พนักงานสอบสวนให้ได้แค่ 9 วันเท่านั้น พร้อมกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตุด้วยว่า พนักงานสอบสวนเองก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าการกระทำของตนเองหมิ่นหรือไม่
