….เก็บตกจากงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี2561 หอการค้ากาญจนบุรี ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2561 โดยได้เชิญนักธุรกิจระดับร้อยล้าน 2 ราย คือ คุณชวพจน์ ชูหิรัญ เข้าของธุรกิจหมูปิ้งเฮียนพ และ คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ เจ้าของเวปไซด์ชื่อดัง tarad.com มาถ่ายทอดประสบการณ์และกุญแจแห่งความสำเร็จในการทำธุรกิจ
เฮียนพ – ชวพจน์ ชูหิรัญ เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งเฮียนพ มูลค่า 200 ล้าน ชีวิตเฮียล้มลุกคลุกคลาน ดราม่าไม่แพ้นักธุรกิจระดับโลก เมื่อจังหวะชีวิตคนเราจะรุ่ง อะไรก็ต้านไม่อยู่ เฮียมีสูตร ความสำเร็จมาจาก 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. เฮียนพให้ความสำคัญกับ ตัวแทนขายที่เติบโตต่อเนื่อง นั่นคือ ช่องทางจำหน่ายของเฮีย นั่นเอง
- เฮียบอก แบรนด์ต้องแข็ง เฮียจึงสร้าง อัตลักษณ์ของหมูปิ้ง ด้วยการเอาหน้ามาเป็นโลโก้การันตี ว่าหมูเฮียที่มีมาตรฐานความสะอาดถูกหลักอนามัย มีมาตรฐานตามภาครัฐกำหนด และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเป๊ะเว่อร์ การทำสินค้าแบบ Mass Product ต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก ท้ายสุด เฮียได้เงินกู้จาก SME BANK และ ส่งออก CLMV (ประเทศเพื่อนบ้าน) สบายใจหายห่วง
- เฮียให้ความสำคัญกับการ ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ เพราะเฮียเข้าใจดีว่า ผู้บริโภคยุคนี้ ต้องบิ๊วอารมณ์ตลอด เกาะติดกระแส SOCIAL MEDIA ในทุกทาง เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงแบรนด์เฮีย ลงทุน Live สดหน้าจอกับออเจ้า เกาะกระแสแรงๆกันไป..เฮียเข้าใจพฤติกรรมโลกยุคนี้อย่างดี
- เฮียสร้างโวลุ่มด้วย การรับจ้างผลิต (OEM) เฮียไม่ยึดติดแบรนด์ เพราะเฮียรู้ดี เดี๋ยวโดนเลียนแบบ แต่เฮียไม่แคร์ เพราะมั่นใจ หมูเฮียอร่อยได้โล่ห์ แถมมีการันตีเรื่องสุขอนามัย เฮียมั่นใจเกินร้อย เพราะเฮียรู้ ว่าเฮีย มีในสิ่งที่หมูปิ้งเจ้าอื่นไม่มี
จบเรื่องเฮียเนียนๆ ไปก่อน หมูเฮียไม่ได้วิเศษกว่าหมูแถวบ้านเรา แต่เฮียให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการผลิต และเฮียมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี เฮียคิดต่างอย่างสร้างสรรค์ !! จึง รวยๆ เฮงๆไป รายได้เดือนเป็นล้าน มูลค่าธุรกิจเกิน 200 ล้านไปเรียบร้อย
ข่าวน่าสนใจ:
เฮียป้อม – ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นักธุรกิจไอทีระดับชาติ เจ้าของเวปไซด์ดัง tarad.com ถือเป็น platform ขายของยุคต้นๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว นี่คือ จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจที่เรียกว่า START UP ในยุค Thailand 4.0 ที่รัฐบาลฝันเห็น ว่านี่คือ ธุรกิจที่ยกระดับให้ GDP (Gross Domestic Product) เติบโตทัดเทียมกับอารยประเทศ เขาทำอย่างไรกัน? 10 กว่าปีที่ผ่านมา ชื่อของเฮียป้อม กลายเป็นแบรนด์ดิ้งในธุรกิจไอทีชั้นแนวหน้า จนถึงตอนนี้ เฮียป้อมมี 18 บริษัท มูลค่าเกิน 200 ล้านไปแล้วฮะ ทำงาน 18 บริษัท พร้อมๆ กันอย่างไร…นี่สุดยอด amazing !! มาพูดถึง ธุรกิจ start up กันก่อน ว่าเขาต้องอะไรยังไง..
START UP คือ ธุรกิจยุคอนาคต ที่เติบโตจากแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ และใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารในยุคดิจิตอล เติบโตแบบก้าวกระโดด ตามเทรนด์ของโลกอนาคต ตอบสนองความต้องการที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ ยกตัวอย่าง Airbnb – เวปไซด์ขายห้องพักที่ไม่มีห้องพักเป็นของตัวเองสักห้อง / Grap taxi และ UBER – แอพพลิเคชั่น ดังที่ให้บริการรถแทกซี่ ที่ไม่มีรถเป็นของตัวเองสักคัน/ UREME – แพลตฟอร์มการศึกษาแนวใหม่ ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก และอีกมากมาย ! โดยมีเงื่อนไขยิบย่อย..แต่หลักๆ ที่พูดถึง พอสรุปได้ตามนี้
- ธุรกิจต้องตอบโจทย์ความต้องการยุคอนาคต อย่างสร้างสรรค์และมีความเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้การเติบโตทางเทคโนโลยี (มันก็ลอกๆแนวคิดต่างประเทศมา ได้อยู่นะ แต่ต้องตอบสนองความต้องการเชิงพื้นที่ และต้องมาในจังหวะที่เหมาะสม)
- ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมาก แต่ให้ผลความพึงพอใจสูงสุด โดยการใช้เทคโนโลยี สร้างระบบปฏิบัติการ เพื่อควบคุมกระบวนการทำงานทั้งหมด ที่เราเรียกว่า แพลทฟอร์ม (PLATFORM) เพราะแบบนี้ อาชีพ AI (artificial intelligence) จึงเป็นที่ต้องการในยุคอนาคต
- ถ้าระบบงานที่ทำนั้นเวิร์คจริง เดี๋ยวนักลงทุนจะแห่มาขอหุ้นเอง หรือ จดทะเบียนระดมทุน เติบโตชัดเจนไปเลย (เริ่มมีบริษัทบิ๊กๆหลายแห่ง มองหาโอกาสเติบโตของ start up พวกนี้ แล้วควบกิจการ (Take Over) หรือร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ โดยเพิ่มกลุ่มบริษัทในเครือ) เพราะฉะนั้น ธุรกิจยุคอนาคต อย่ายึดติดเรื่องการแสดงความเป็นเจ้าของ โตได้ให้รีบโต ต่อยอดได้ให้รีบต่อ เป็นเรื่องของโอกาส..ยิ่งคุณทำระบบได้ดีแค่ไหน จะยิ่งทำให้เติบโตมากเท่านั้น (ต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ ที่เขาเรียกว่า มี Algorithm ที่ชัดเจน)
- ถ้าแนวคิดมันไปได้ มันจะต่อยอดแตกออกเป็นส่วนงานย่อยได้เอง แต่นั่นหมายถึงต้องสามารถทำให้สินทรัพย์งอกเงยขึ้นได้ แล้วในแต่ละส่วน ต้องตอบสนองกันได้ แบบเงินต่อเงิน (ระบบการเงินไม่รั่วไหลไปให้คนอื่นเลย หมุนเวียนในกลุ่มบริษัท (Affiliates) ซึ่ง ระบบควบคุม นั้นต้องยอดเยี่ยมมากๆ
- สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ channel (ช่องทางการหารายได้) อย่างไรก็ตาม การทำการตลาดบน social media ยังจำเป็นสำหรับการเติบโตในธุรกิจยุคอนาคต ที่เทรนด์นี้ ยังคงเดินทางต่อเนื่องภายใต้พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภค (เปลี่ยนไวมากๆด้วย)
- การบริหาร BIG DATA เป็นเทรนด์แห่งยุคอนาคต การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จะถูกนำมาใช้อย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ
- พันธมิตรทางธุรกิจ เป็นองค์ประกอบหลักในการเติบโต หมดยุคการแข่งขันกันเอง กลายเป็นยุคการเติบโตแบบเกื้อกูลอย่างสมบูรณ์ที่แท้ทรูแล้วค่ะ ถึงเวลาแล้ว ที่คนไทยจะต้องกระโดดออกนอกกรอบ เปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมองดูว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว จงยอมรับ ว่าสิ่งที่เคยเรียนรู้มาอาจไม่เป็นจริง ไปกว่าสิ่งที่ต้องเจอในอนาคต (กรณีศึกษา cyptocurrency นั่นไง) เราเข้าสู่ยุคที่การเรียนรู้ไม่สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ…
….ร่ายมายาวพอควร ถ้าใครอ่านแล้วไม่เข้าใจ อย่าต่อว่าคนเขียนและอย่าโทษตัวเองเลย ต้องเริ่มเปิดใจ แล้วดูว่า ธุรกิจในยุค 4.0 นั้น โตเร็วเกินกว่าที่คิด ถ้าหยุดเรียนรู้…ก็จบเห่สิท่าน ขอขอบคุณ หอการค้ากาญจนบุรี ที่ร่วมส่งเสริมแนวคิดให้นักธุรกิจชาวเมืองกาญจน์ เดินทางไปสู่ยุคไอที 4.0 สู่ความสำเร็จทางธุรกิจอย่างแท้จริง !!
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: