“สุเทพ” ปฎิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน วันที่ 44 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เผยไม่หนักใจ เพราะการเมืองไม่มีพรรคไหนผูกขาดพื้นที่ได้ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรค และ ในฐานะประธานคณะทำงาน ปฎิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน วันที่ 44 ของ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ จ.บุรีรัมย์ ด้วยการเดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค พร้อมด้วย นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายอุทัย ยอดมณีนายสำราญ ยอดเพชร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค
โดยเริ่มกิจกรรมด้วยการสักการะศาลหลักเมือง บุรีรัมย์ กราบสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 จากนั้นได้เดินพบประชาชนที่บริเวณ ถนนสุนทรเทพฝั่งขวา ตลาดสดเทศบาล ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายสุเทพให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินพบปะประชาชนว่า “การเดินทางมาที่ จ.บุรีรัมย์ในครั้งได้ประโยชน์มากและได้ความรู้ใหม่ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนเช่นได้ความรู้ว่าเมืองบุรีรัมย์ 1 เป็นผู้ทรงสร้างเมืองขึ้นและที่รู้เพราะพี่น้องกปปส.ที่บุรีรัมย์ได้พาไปถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 บุรีรัมย์จึงไม่ใช่เมืองธรรมดา และตอนที่ไปสักการะศาลหลักเมืองทำให้ได้ทราบว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีเสาหลักเมือง 2 เสาเหมือนที่กรุงเทพ และอุดรธานีและที่มีความสุขที่สุดคือเมื่อเดินไปทางไหนพี่น้องชาวบุรีรัมย์ต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรี เข้าไปในตลาดมีมอบพวงมาลัยดอกดาวเรือง มีการกอดให้กำลังใจ และพบว่ามีหลายคนมีความตื่นตัว ทางการเมือง และเชื่อว่าพี่น้องชาวบุรีรัมย์จะเป็นกำลังสำคัญในการรักษาระบอบประชาธิปไตยในการที่จะสนับสนุนส่งเสริมพรรคการเมืองของประชาชนให้ทำหน้าที่แทนประชาชน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย ตรงนี้มีความคาดหวังอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่ค่อยเป็นอย่างนั้น นายเนวิน ชิดชอบ เป็นผู้ที่ได้สร้างทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียกว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในการสนับสนุนกีฬาฟุตบอล มีสนามกีฬาขนาดใหญ่ ทำให้บุรีรัมย์ กลายเป็นเมืองกีฬา นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องความคิดความอ่านทางการเมืองของประชาชน ก็คงเป็นอีกเรื่อง ประชาชนเขาแยกแยะได้ ไม่ใช่เป็นปัญหา ไม่มีใครสามารถที่จะผูกขาดจังหวัดไหน ภูมิภาคไหน ในทางการเมือง เพราะ ตนเชื่อว่าประชาชนในยุคนี้ คงคิดเรื่องความมั่นคงของประเทศ ความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล ไม่ได้ยึดติดกับพรรค”
เมื่อถามว่าตั้งเป้าหมายพื้นที่ จ.บุรีรัมย์มากน้อยแค่ไหน นายสุเทพ ตอบว่า “พรรครปช.เองก็ส่งผู้สมัครทุกเขตเลือกตั้งและหวังว่าจะได้คะแนนจากทุกเขตจะมากน้อยแล้วแต่ดุลพินิจของแต่ละบุคคล แต่เรายืนยันว่า เราคือพรรคการเมืองของประชาชนเพียงพรรคเดียวในประเทศไทย และเราตั้งใจที่จะมาช่วยชาติบ้านเมือง เพื่อสนองพระยุคลบาท พระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น”
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ไม่มีความหนักใจอะไร ไปมาทุกแห่งก็ดีหมด เมื่อคืนที่ผ่านมาทางพรรค รปช.ได้จัดงานระดมทุนเข้าพรรคก็บริหารพรรคภูมิใจไทยก็ยังไปนั่งอยู่ด้วย ทุกคนต่างมีหน้าที่ทางการเมือง พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
