สภาวิศวกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่แฟลตถล่มที่เคหะชุมชนดินแดง 1 สันนิษฐานวิศวกรดำเนินการผิดขั้นตอน ทำให้อาคารถล่มนอกพื้นที่ปลอดภัย จี้หน่วยงานเร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง คาดทราบผลในสัปดาห์หน้า
สภาวิศวกร นำโดย ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวะกร และคณะจากสภาวิศวกร ได้แก่ นายชูเลิศ จิตเจือจุน, นายวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์, นายรณรงค์ กระจ่างยศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการสำนักงานเขตดินแดง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่แฟลต 18-20 เคหะชุมชนดินแดง 1 โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 2 หลังเกิดเห็นอาคารถล่มนอกพื้นที่ปลอดภัยระหว่างทำการรื้อถอนในวันที่ 2 เม.ย.62 ที่ผ่านมา
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ กล่าวว่า สภาวิศวกรได้รับการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดปัญหาดังกล่าว จากตรวจสอบการรื้อถอนเบื้องต้น พบว่าบริเวณแฟลต 18-20 เคหะชุมชนดินแดง 1 เป็นพื้นที่วิศวกรรมควบคุม ซึ่งการดำเนินงานต่าง ๆ ในพื้นที่จะต้องอยู่ในการควบคุมของวิศวกรให้เป็นไปตามปฎิบัติ วิศวกรรม ภายใต้ พ.ร.บ.วิศวกร และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร
เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้ ศ.ดร.อมร ได้อธิบายถึงลักษณะของการรื้อถอนอาคารโดยสังเขปว่า การรื้อถอนต้องทำจากด้านบนไล่ลงด้านล่างของอาคาร โดยหลักการต้องรื้อส่วนที่เรียกว่าเปลือกของอาคารก่อน คือส่วนพนังและพื้น โดยทยอยรื้อให้เหลือโครงอาคารเปล่า และค่อย ๆ ดำเนินการตัดคานและเสาที่ละชั้นไล่ลงมาตามลำดับ
ซึ่งการตรวจสอบเหตุในครั้งนี้จะต้องดูว่ามีการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กล่าวมาหรือไม่ ถ้ามีการลัดขั้นตอนก็อาจเป็นสาเหตุในการพังถล่ม ทั้งนี้สันนิษฐานว่าถ้าดำเนินการตามขั้นตอนตัวอาคารจะทรุดลงในแนวดิ่ง ถ้าไม่ถูกต้องจะลงเอียงอยู่นอกพื้นที่ปลอดภัย ทำให้สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและเกิดผลกระทบกับประชาชนในบริเวณใกล้เคียงได้
สาเหตุเบื้องต้น ศ.ดร.อมร ตั้งข้อสังเกตสองประการว่า 1.มีวิศวกรควบคุมหรือไม่ หากไม่มีวิศวกรควบคุมจะเข้าข่ายการกระทำความผิด พ.ร.บ.วิศวกร 2.มีวิศวกรควบคุมแต่ขั้นตอนการรื้อถอนไม่เป็นไปตามหลักวิศกรรม จะมีต้องการตั้งอนุกรรมการไต่สวน ถึงจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง หรือกระทำความผิดอย่างร้ายแรง อาจได้รับโทษสูงสุดคือถูกเพิกถอนในอนุญาตใบประกอบวิชาชีพวิศวกร
ระหว่างนี้จะมีจดหมายไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียกดูเอกสารที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด จาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานเขต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูเอกสารในการขออนุญาตในการดำเนินงานรื้อถอนอาคารและรายชื่อวิศวกรที่เกี่ยวข้อง โดยจะเรียกวิศวกรที่เกี่ยวข้องมาไต่สวนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งหากพบว่าวิศวกรมีการกระทำความผิดจริง คาดว่าจะมีการดำเนินการลงโทษไม่เกิน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม หากมีการอ้างอิงถึงบุคคลอื่น อาจขยายเวลาออกไปตามความเหมาะสม
ด้าน นายเรืองเดช พงษ์จันทร์โอ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตดินแดง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนอกเหนือจาก พ.ร.บ.วิศวกร และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แล้วยังเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ หรือ EIA ซึ่งจะต้องมีการนำมาพิจารณาในการดำเนินการหาข้อเท็จจริงในกรณีด้วย
ส่วนการรื้อถอนต้องอาคาร 64 แฟลต ของการเคหะฯ ที่มีการวางแผนไว้ในตอนต้นจำเป็นต้องมีการดำเนินการตามแผนต่อไปจนแล้วเสร็จประมาณปี 2567 อย่างไรก็ตามจะระงับการรื้อถอนจนกว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะมีการพูดคุยและตกลงถึงวิธีการรื้อถอนที่ถูกต้องในกรณีแฟลต 18-20 ได้อย่างชัดเจนก่อน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: