สภาวิศวกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นมั่นใจโครงสร้างอย่างแข็งแรงและไม่เกิดเหตุซ้ำ รอผลพิสูจน์หลักฐานชี้สาเหตุแท้จริง พร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบพรุ่งนี้ (12 เม.ย.)
สภาวิศวกร, วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตกทม. และสำนักงานโยธากทม. เดินทางเข้าตรวจสอบภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์และบริเวณใกล้เคียงหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงค่ำวานนี้โดยมีสื่อมวลชนร่วม 100 คนรวมถึงพนักงานร้านค้าต่าง ๆ เฝ้ารอติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบในครั้งนี้
เบื้องต้น ทางบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN) ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์ว่าเมื่อวันที่10 เมษายน 2562 เวลาประมาณ 17.40 น.ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณช่องท่อระบายควันชั้น8 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทางศูนย์ฯได้รีบอพยพคนออกจากพื้นที่โดยทันทีและสามารถควบคุมกลุ่มควันได้สำเร็จภายในเวลาประมาณ 18.10 น. จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ16 คนและพนักงานบริษัทฯเสียชีวิต 2 คน
ทั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์บริษัทฯ ได้ประกาศปิดอาคารดิออฟฟิศเศสแอทเซ็นทรัลเวิลด์และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าวในวันที่11 เมษายน2562 โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการอาคารดิออฟฟิศเศสแอทเซ็นทรัลเวิลด์และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ในวันที่11 เมษายน2562 เวลา 12.00 น. และ 14.00 น. ตามลำดับ
หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบในช่วงเช้ามีการจัดโต๊ะแถลงข่าวตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนโดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล
ด้าน นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดเผยถึงลักษณะของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่า พฤติกรรมของไฟเมื่อมีการติดไฟหรือลุกไหม้ ควันและความร้อนลอยสูงขึ้นสู่ด้านบน โดยต้นเพลิงในครั้งนี้อยู่บริเวณห้องเครื่องชั้นB2 และพุ่งขึ้นไปตามท่อระบายอากาศ
เมื่อถึงชั้น 8 พบว่ามีท่อหลุดทำให้ไฟแผ่กระจายออกด้านข้างและลุกลามในบริเวณชั้น 8 และลามกลับลงมาในชั้นอื่น ๆ ต่อลักษณะการเคลื่อนตัวของไฟและความมืดทำให้เจ้าหน้าหาต้นเพลิงได้ยาก แม้จะสามารถควบคุมเพลิงได้แล้วแต่ตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุได้โดยต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต่อไป
ด้าน นายพิชญะ จันทานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ความเสียหายขณะนี้บริเวณที่ต้องปิดให้บริการอย่างแน่นอน คือบริเวณชั้น8 ที่เป็นสำนักงานขนาดเล็กพื้นที่ 400 ตารางเมตรและชั้นบี2 อีก80 ตารางเมตร พร้อมทั้งให้มั่นใจว่าจะไม่มีการเกิดซ้ำอีก
ส่วนกรณีที่ไม่มีสัญญาณเตือนภัยดังพร้อมกันทั้งอาคารนายพิชญะมองว่าเป็นขั้นตอนการอพยพในเหตุฉุกเฉินที่ไม่สามารถประกาศให้คนในอาคารทราบว่าเพลิงไหม้ได้ในคราวเดียวเนื่องจากจะทำให้เกิดการตื่นตระหนกและไม่ปลอดภัยอย่างมากอย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจสอบจากลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ต่อไป
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยหลังนำทีมเข้าตรวจสอบภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ว่าจากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าโครงสร้างของศูนย์การค้าเซนทรัลเวิลด์ไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนในเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ทางสภาวิศวกรยังไม่ตัดประเด็นเรื่องการออกแบบอาคาร พร้อมตั้งข้อสังเกตสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงนั้นจะต้องเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องในรวมถึงวิศวกรผู้ออกแบบอาคารมาให้ข้อมูลเพื่อความกระจ่างชัดเกี่ยวกับระบบท่อระบบเชื้อเพลิงภายในอาคารรวมถึงระบบการป้องกันอัคคีภัยที่วางไว้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการประเมินว่าศูนย์การค้าจะสามารถเปิดให้บริการตามที่แจ้งไว้เบื้องต้นได้หรือไม่นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม. กับทางเซนทรัลกรุ๊ปว่าจะประเมินอย่างไรเนื่องจากการสำรวจพื้นที่สามารถให้คำตอบได้เพียงบางส่วนและยังขาดข้อมูลหลายจุดเช่นลำดับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุทำให้ไม่สามารถประเมินได้และขอเวลาเจ้าหน้าที่ในการทำงานเพื่อความชัดเจนก่อน
ซึ่งในเวลานี้ อาคารดิออฟฟิศเศสแอทเซ็นทรัลเวิลด์ได้เปิดให้บริการแล้ว แต่ศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ยังเปิดให้บริการ ทั้งนี้ มีพนักงานของร้านค้าต่าง ๆ หลายร้อยคนรออยู่หน้าประตูหน้าศูนย์การค้าเพื่อรอเข้าไปปฏิบัติงานในศูนย์การค้า โดยมีเจ้าหน้าคอยอำนวยความสะดวกในการลำเลียงพนักงานเข้าสู่อาคาร
ทั้งนี้ ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่าวันนี้ ส่วนอาคารสำนักงานทั้ง the offices @ Central World และ Zen Tower และโรงแรม สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนในศูนย์การค้าจะดำเนินการเข้าไปทำความสะอาดเพื่อเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้
