นายกรัฐมนตรีเผยยังไม่พอใจภาพรวมการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ เนื่องจากยังมีการบาดเจ็บและเสียชีวิตมาก แม้รัฐบาลทำอย่างเต็มที่เเล้ว พร้อมขอให้ทุกคนสนใจกฎหมายมากขึ้น มีสติและรู้จักผิดชอบชั่วดี
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงภาพรวมอุบัติเหตุเดินทางไป – กลับของประชาชาช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
พลเอก ประยุทธ์ ระบุยังไม่พึงพอใจ เพราะยังมีการบาดเจ็บ และเสียชีวิตอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครพึงพอใจอยู่แล้ว เพราะทุกคนคือกำลังสำคัญของประเทศ ถึงแม้จะมีการบาดเจ็บและสูญเสียน้อยลงกว่าปีที่แล้วก็ตาม ทั้งนี้ รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ แล้ว ส่วนที่มีการเรียกร้องให้มีมาตรการทางกฎหมายมากขึ้นในเรื่องนี้ รัฐบาลเองจำเป็นต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบในเรื่องของผลกระทบต่าง ๆ
โดย นายกฯ กล่าวว่า ระหว่างที่กำลังเรียกร้องด้านกฎหมายด้านความปลอดภัยอื่น ๆ อยากให้ประชาชนสนใจกฎหมายปกติให้มากขึ้น เช่น การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย การขับยานพาหนะโดยไม่ดื่มสุราที่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ ซึ่งกฎหมายมีครอบคลุมทุกตัว แต่เรื่องจิตสำนึกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับความปลอดภัยในครอบครัว ซึ่งมองว่าในรัฐบาลได้ทำในส่วนที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการตีกันในโรงพยาบาลมากขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับปัญหา เด็กแว้นที่มีการแข่งรถอยู่ตลอดแม้มีกฎหมายควบคุมอยู่และมีการจับกุมทุกครั้ง แต่ผู้กระทำความผิดไม่เข็ดหลาบ ในส่วนนี้คงจะต้องมีการใช้มาตรการทางกฎหมายปกติให้มากขึ้น
“ขอให้คนไทยมีสติให้มากขึ้น รู้จักผิดชอบชั่วดี รักชีวิตตัวเอง รักชีวิตคนอื่นด้วย อย่าอ้างแต่เพียงว่าขาดสติเพราะน้ำเมา เพราะน้ำเมาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครบังคับ ทุกคนดื่มกินกันเองทั้งสิ้น”
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า “จิตสำนึกของคนสำคัญที่ทุกในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องความขัดแย้งต่าง ๆ มันอยู่ที่จิตสำนึกว่าต้องการให้บ้านเมืองเป็นอย่างไร สงบ ปลอดภัย สันติหรือไม่ ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ถนนก็เช่นเดียวกัน”
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนเองได้ตรวจสอบ พร้อมทั้งเตือนเจ้าหน้าที่คนขับรถต่างๆ แต่ก็ยังคงมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเหมือนเดิม จึงฝากสื่อมวลชนให้ช่วยเตือนสติทุกคนอีกแรงหนึ่งด้วย ขณะเดียวกันเรื่องสุขภาพของคนขับรถผู้ให้บริการ ต้องมีการดูแลให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและจิตอาสา ที่ทำงานในช่วงปีใหม่ไทยหรือสงกรานต์อย่างเข้มแข็ง ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาด้วย
ตรวจดีเอ็นเอผู้เข้าเกณฑ์ทหารกองเกิน เป็นความสมัครใจ
นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังได้กล่าวถึงกระแสการคัดค้านการเกณฑ์ทหาร เเละการตรวจดีเอ็นเอผู้เข้าเกณฑ์ทหารกองเกินเข้ากองประจำการประจำปี 2562 ในพื้นที่ชายเเดนใต้ว่า การเก็บดีเอ็นเอของทหารชายเเดนภาคใต้เป็นครั้งเเรกในการตรวจดีเอ็นเอของพลทหาร ถือเป็นปีเเห่งการนำร่อง ซึ่งเริ่มในจังหวัดชายเเดนใต้ก่อน เนื่องจากมีปัญหาด้านความมั่นคง ส่วนจะขยายไปยังพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ หรือไม่นั้น ไม่ได้มีการบังคับ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “การตรวจดีเอ็นเอได้มีการเเจ้งให้ผู้เข้าเกณฑ์ทหารทราบก่อนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความสมัครใจเเละความยินยอมของเเต่ละคน ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี เข้าใจในเหตุผล เเละไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ์ ส่วนการเก็บดีเอ็นเอไว้เพื่อเป็นฐานข้อมูลเเห่งความมั่นคง เพราะเข้ารับราชการทหารเพียง 2 ปี”
