ร้อนระอุ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ปล่อยคลิปอัดหนักคนดิสเครดิต นำหลักฐานเป็นบุคคลล้มละลายมาเผยแพร่ โดยเฉพาะพระรูปหนึ่งออกมาโจมตีอย่างหนักถามว่านี่ใช่พระหรือไม่ ย้ำที่ผ่านมาเตรียมตัวจะแจ้งอยู่แล้วและเชื่อว่าประเด็นนี้จะต้องเกิดขึ้นในวันหนึ่งและก็เกิดขึ้นจนได้ แต่นี่คือหนทางหนึ่งที่จะพิสูจน์ว่าจะผ่านเรื่องนี้และปัญหาอุปสรรคได้อย่างไรและท้าให้พิสูจน์ว่าตรวจสอบได้ขณะที่ ทนายพจน์ ออกมาจวกไม่ยั้งเดินหน้าถามถึงกรณีล้มละลายแล้วใช้บัญชีผู้เป็นพ่อเคยมีการแจ้งมาก่อนรับบริจาคหรือไม่ และเคยมีการแจ้งต่อเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ ถึงแหล่งที่มารายได้ทั้งเงินบริจาคและการขายเสื้อ ส่วนการด่ากราดคนอื่นไปทั่วให้พิจารณา ว่ามีคนออกมาตักเตือนแต่กลับด่ากไปหมดไม่ว่าพระหรือฆราวาส อย่างนี้เรียกคนตื้นธรรม เหมาะไหม
ข่าวน่าสนใจ:
วันที่ 6 มกราคม 67 กระแสความสนใจพุ่งไปที่ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม อย่างต่อเนื่องหลังจากมีการเปิดข้อมูลว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งในโลกโซเชียลมีการถกเถียงแบ่งฝ่ายกันอย่างร้อนแรงทั้งในฝั่งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่เห็นต่างๆ ซึ่งประเด็นดังกล่าวเกิดจาก คลิบที่ อ.เบียร์ ได้มีการตอบคำถามในคอมเม้นท์ ในเพจเรื่องเกี่ยวกับสังขารของพระเกจิอาจารย์ ที่ละสังขารไปแล้วแต่สรีระไม่เน่าเปื่อย ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่และมีการแสดงความเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้ยกตัวอย่างเหมือนกับหมาที่ตายไปแล้วในต่างประเทศก็มีที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย ทำให้เกิดกระแสแตกในความเห็นดังกล่าวออกเป็นสองทางในช่วงไม่กี่ที่ผ่านมา
โดยในวันนี้ อ.เบียร์ ไม่มีการโพสต์คลิปตอบโต้เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่าได้มีการสอนและยกตัวอย่างซึ่งอยากจะให้ไปชมคลิปทั้งหมดโดยภาพรวมว่าเรื่องดังกล่าว แต่ได้ติดใจในเรื่องของการที่มีคนนำเอกสารคดีดำคดีแดงที่ปรากฏชื่อตนเองถูกบังคับคดีพิทักษ์ทรัพย์และ ศาลมีคำสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งได้เตรียมไว้ว่าจะแจ้งกับ ประชาชนและแฟนคลับอยู่แล้วแต่มีคนจ้องนำมาเสนอเพื่อดิสเครดิตเสียก่อน โดยได้มีการพาดพิงไปถึงพระรูปหนึ่งว่าไม่มีความเป็นพระเพราะเอาเรื่องเสียหายของคนอื่นไปเผยแพร่โดยมีการเปิดเผยเลขที่คดีดำคดีแดง โดยไม่มีความเป็นพระ และมีคลิปหลายชุดที่ปรากฏตอบโต้ประเด็นดังกล่าวซึ่งยังมีบางส่วนได้ชี้แจงว่ามีคนที่อิจฉาจ้องจะดิสเครดิตตนเอง ซึ่งได้เตรียมใจกับทีมงานมาก่อนแล้วและก็เกิดขึ้นจริงๆ แต่เป็นบทพิสูจน์ที่จะทำให้ตนเองผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ โดยยืนยันถึงความถูกต้องและชัดเจนกับการเปิดรับบริจาคซึ่ง สวนทางกับการเป็นบุคคลล้มละลายของตนเอง ว่าได้มีการดำเนินการที่ชัดเจนและไม่หวั่นแม้จะถูกตรวจสอบ
ต่อมา นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร หรือ ทนายพจน์ นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตอบโต้ โดยมีการทำคลิบยาว สวนกลับจากคลิบที่มีคลิบ อ.เบียร์ เผยแพร่มาตลอดทั้งวัน โดยบอกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นกรณีที่มีคนเค้าเข้าไปตักเตือน นายเบียร์ ว่าได้กระทำเหตุที่ไม่ควรแต่ในเบียร์กลับทำคอนเทนท์ด่ากราดคนอื่นไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นฆราวาส หรือพระสงฆ์ ก็คิดว่าเขาด่ากราดหมดคิดว่าเขามาด่า ในกรณีที่นายวีออกมาบอกว่าโคตรพ่อโคตรแม่ของตัวเองไปคดโกงคนอื่นตรงไหน เช่นกันคนอื่นก็ไม่ได้มีใครมาฉ้อโกงพ่อโคตรพ่อคุณแม่อาจารย์เบียร์เช่นกัน แล้วนายเบียร์ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นคนตื่นทำจะทำเป็นจีบปากจีบคอด่าคนอื่นไปทั่วเพื่ออะไร ผมไม่เข้าใจไม่สมกับเป็นคนตื่นธรรม อย่างดีก็ได้แค่เป็น “คนตื้นธรรม” นั่นเอง
ทนายพจน์ กล่าวว่า ฉะนั้นนายเบียร์ ที่ได้ออกมาด่ากราดคนอื่นไปทั่วก็เป็นการด่าเพื่อทำคอนเทนท์ อย่าปฏิเสธว่าไม่ได้ทำคอนเทนท์เพื่อขายเสื้อ และขอรับบริจาคแล้วยังบอกว่า พระสงฆ์องค์เจ้า ทำเดรัจฉานวิชา ซึ่งทั้งที่ตัวเองไม่รู้เลยว่าเดรัจฉานวิชาคืออะไร ผมจะบอกนายเบียร์ให้ทราบไว้คือวิชาอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่สร้างให้เกิดความหลุดพ้น มันก็คือเดรัจฉานวิชา ไม่ว่าจะเป็นแพทย์เป็นครูหรืออาชีพอื่นใด มันก็เป็นเดรัจฉานวิชาทั้งนั้นเพราะมันไม่ได้ทำเพื่อหลุดพ้นแต่เป็นการทำเพื่อยัง ยิ่งการทำเสื้อออกมาขายออกสื่อถือกระโถนก็เป็นเดรัจฉานวิชาเหมือนกัน พระสงฆ์ทำน้ำมนต์เข้าทำพิธีกรรมโยมแต่เขาก็ไม่ได้ นำเงินส่วนนั้นไปใช้ส่วนตัวเค้านำไปใช้ปฏิสังขรณ์วัด ไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟและทำให้คนเดินเข้าวัด
ทนายพจน์ กล่าวต่อว่า การที่คุณเป็นคนล้มละลาย ก็เพราะว่าคุณไม่ใช้หนี้นั่นแหละศาลท่านถึงได้สั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย แล้วกฎหมายบอกไว้ว่าคนที่เป็นบุคคลล้มละลายหากคุณประกอบอาชีพมีรายได้คุณต้องแจ้งต่อพนักงานพิทักษ์ซับตามพรบ.ล้มละลาย เค้าไม่เปิดโอกาสให้คุณทำอาชีพหรือรับบริจาคโดยใช้บัญชีคนอื่น เงินที่ได้มาจากการขายเสื้อก็ดีหรือรับบริจาคก็ต้องนำมาอยู่ในบัญชีเดียวกันไม่ว่าจะเป็นชื่อบัญชีใครก็แล้วแต่ อันนี้เงินเป็นรายได้ หนึ่งคุณต้องไปคำนวณเพื่อเสียภาษี สองเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องนำเงินรายได้เหล่านี้ไปชำระให้กับเจ้าหนี้ ถามว่าไอ้การเนี่ยขายเสื้อผ้ารับบริจาคอะไรเนี่ยคุณได้แจ้งเจ้าพนักงานลักทรัพย์หรือไม่สังคมได้ว่าคุณเป็นหนี้เท่าไหร่เหลือเท่าไหร่ชี้แจง แล้วตอนนี้คุณได้แจ้งหรือยัง
” สิ่งที่หลายคนเคลือบแคลงสงสัยก็คือเมื่อคุณไม่สามารถเปิดบัญชีในการรับบริจาค หรือขายสินค้าในตัวคุณเองได้เอง และเจ้าตัวยอมรับเองว่าเปิดเป็นบัญชีของพ่อ แล้วได้มีการชี้แจงหรือไม่ครับว่าเงินที่เข้าในบัญชีนั้นมีการเคลื่อนย้ายหรือขยับไปอยู่ที่ไหนต่อ และเส้นทางทางการเงินนั้นเป็นอย่างไรออกมาชี้แจงหน่อยดีมั้ยครับ แทนที่จะออกมาบอกว่าเอาไปบริจาคตรงนั้นตรงนี้จงเชื่อมั่นในตัวเอง นอกจากตรงนี้แล้วมีใครเข้าไปตรวจสอบบัญชีของพ่อเค้าไหมว่ามีการดำเนินการอย่างไร มันเป็นเงินขายสินค้าอย่างเดียวหรือเป็นเงินที่รับบริจาคเข้ามารวมในบัญชีนี้ด้วย ในการเบิกถอนมีการเบิกถอนกี่ครั้งใช้ไปเท่าไหร่และนำไปดำเนินการ ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคหรือไม่ อันนี้ สังคมเค้าเคลือบแคลงใจครับ” ทนายพจน์ ตั้งคำถาม
ทนายพจน์ ให้ความเห็นว่า นายเบียร์จีบปากจีบคอ บอกว่าการที่คนเค้าออกมาตั้งคำถามมีคนเค้าอิจฉา มีคำถามว่าคนเค้าจะไปอิจฉานายเบียร์อะไรมีคุณูปการอะไร มีการทำงานอาชีพอะไรที่ประสบความสำเร็จ ที่ทำให้คนเค้าต้องไปอิจฉา คนอื่นเค้าสอนทำมาก่อนแต่เป็นคนตระหนี่ไม่มีลาภสักการะ นายเบียร์เพ้อเจ้อแล้วครับ นี่ถ้าเพื่อนผมมาพูดแบบนี้ผมจะบอกว่าไอ้นี่แต๋วแตกแล้ว เพ้อเจอไปทั่ว ไม่มีคนสนใจ อันนี้ขั้นหลงตัวเอง แม่ยกก็ออกมาเชียร์กันยกใหญ่ว่านายเบียร์พูดถูกอย่างนั้นอย่างนี้ อันนี้ต้องคิดใหม่ว่าเป็นคนพูดตรงกับเป็นคนปากเสียนั้นแตกต่างกัน เรื่องนี้ต้องนำไปพิจารณากัน
ทนายพจน์ กล่าวย้ำว่า นายเบียร์ ใช้ชื่อว่าคนตื่นธรรม แต่ด่ากราดคนอื่นเขาไปทั่วไม่ว่าคนทั่วไปหรือว่าพระสงฆ์ อย่างนี้หรือครับที่จะเรียกว่าคนตื่นธรรมจะเป็นตัวอย่างให้บุคคลอื่น แบบนี้ใช่ไหมครับที่จะมาเป็นผู้นำ ที่จะ มาเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ แล้วใช้คำพูดหยาบคายแบบนี้หรือครับ ก็อย่างที่ผมบอกว่าเราสามารถพูดตรงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องปากเสีย เอะอะด่าพ่อล่อแม่ มีคนถามพอตอบไม่ได้ก็ถามกลับ จะเอากันแบบนี้ใช่มั้ยครับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: