X

รวบเจ้าหน้าที่การเงิน ระดับ 5 ทุจริตเกือบ 10 ล้าน หลังหลบหนีนาน 9 ปี

ปทุมธานี รวบเจ้าหน้าที่การเงิน ระดับ 5 ทุจริตเงินเกือบ 10 ล้าน หลังหลบหนีนาน 9 ปี

​วันที่ 16 ธันวาคม 2562 นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เข้าจับกุมนายชาญชิต พิทักษ์พลรัตน์ อดีตเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 5 สำนักงานประชาสงเคราะห์จังหวัดชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ 9/2554 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 โดยจับกุมได้ที่ร้านขายผลไม้ ภายในหมู่บ้านรัตนโกสิน 200 ปี ขณะนั่งขายผลไม้อยู่ ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ให้ข้อมูลว่านายชาญชิต พิทักษ์พลรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 5 สำนักงานประชาสงเคราะห์จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ได้กระทำการเบียดบังเงินของทางราชการจำนวน 9,221,225 บาท ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสาร หรือดูแลรักษาเอกสาร กระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น และมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 และมาตรา 161 โดยปรากฏว่านายชาญชิตฯ ไม่ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการเพื่อฟ้องคดีต่อศาล คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงดำเนินการขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจออกหมายจับ และศาลจังหวัดชัยภูมิได้ออกหมายจับ ที่ 9/2554 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554



จากการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวนายชาญชิตฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ปรากฏว่านายชาญชิตฯ ถูกศาลจังหวัดชัยภูมิสั่งให้เป็นบุคคลสาบสูญ ตั้งแต่ปี 2554 โดยผู้ยื่นคำร้องต่อศาลคืออดีตภริยา แต่เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษยังไม่ปักใจเชื่อว่านายชาญชิตฯ จะเป็นบุคคลสาบสูญจริงจึงเริ่มกระบวนการสืบสวนเชิงลึก หาพยานหลักฐานว่านายชาญชิตฯ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จนได้ข้อมูลและเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งที่นายชาญชิตฯ ยื่นคำขอเปิดบัญชีร่วมกับภรรยาคนปัจจุบัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากศาลมีคำสั่งให้นายชาญชิตฯ เป็นบุคคลสาบสูญ

​สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ได้ดำเนินการสืบสวนหาตัวนายชาญชิตฯ โดยเริ่มจากที่อยู่ตามคำขอเปิดบัญชีธนาคาร และต่อมาทราบว่าที่อยู่ดังกล่าวเป็นบ้านของภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งเสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2560 แต่นายชาญชิตฯ ยังคงครอบครองและอยู่อาศัยเรื่อยมา นอกจากนี้ยังปรากฏว่านายชาญชิตฯ ได้ครอบครองรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ตง 0297 ที่มีชื่อภรรยาคนปัจจุบันซึ่งเสียชีวิตแล้ว เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และใช้เป็นยานพาหนะในการประกอบธุรกิจขายของชำ เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ โดยมักจะไปเลือกซื้อของจากตลาดสี่มุมเมือง ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นประจำสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษจึงได้วางแผนปฏิบัติการลงพื้นที่ และสนธิกำลังร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาในวันนี้ (วันที่ 16 ธันวาคม 2562) เวลาประมาณ 11.00 น. ณ ตลาดสดแห่งหนึ่งในตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยจะนำตัวนายชาญชิตฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับส่งให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี