ปทุมธานี วอนช่วยครอบครัวลูกพิการ แม่ป่วยพ่อหาเงินเพียงคนเดียวรักษา แถมโดนมิจฉาชีพหลอกซ้ำ
วันนี้ 9 มกราคม2563 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีครอบครัวครอบครัวหนึ่งซึ่งมีลูกป่วยพิการ ส่วนแม่ก็รักษาอาการบาดเจ็บผ่าตัดจากอาการปอดรั่วไม่สามารถทำงานได้ มีเพียงผู้เป็นพ่อที่ทำงานหาเงินได้เพียงคนเดียวทำให้ไม่เพียงพอต่อการรักษาภรรยาและบุตร จนต้องนำบ้านที่พักอาศัยไปจำนองเพื่อหาเงินมารักษาภรรยาและลูก จนเป็นหนี้นอกระบบเพราะชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงอยากให้ผู้ที่มีทุนทรัพย์มากช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งครอบครัวนี้พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่2/99 ซอยเทพกุญชร22/1 ม.12ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านชั้นเดียวหน้าบ้านอดีตเคยค้าขายส้มตำ ขณะที่ภายในบ้านพบนายศรชัย วงศ์กระโซ่ อายุ 36 ปี น.ส.กัลยา หมวกเพ็ชร อายุ 41 ปี สองสามีภรรยาที่กำลังเช็ดตัวให้กับเด็กหญิงวิรามร วงศ์กระโซ่ หรือน้องมุกดา บุตรสาวอายุ 6 ขวบ ที่ป่วยพิการทางการเห็น และพิการทางสติปัญหา ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ รวมทั้งร่างกายตั้งแต่เอวลงไปไม่สามารถใช้การได้ โดยต้องใช้เผือกในการดัดขาของลูกสาวให้ตรงตามที่แพทย์แนะนำเนื่องจากขาจะมีการอาการเกร็ง
น.ส.กัลยา หมวกเพ็ชร เปิดเผยว่า บุตรสาวตนเองมีการตั้งครรภ์ฝากครรภ์ปกติ กระทั่งคลอดออกมา อายุได้ประมาณ 4 เดือน ลูกมีอาการไข้ขึ้นสูงตนเองและสามีจึงพาลูกไปร.พ.แห่งหนึ่ง เมื่อไปแล้วแพทย์ทำการรักษาและให้กลับบ้านได้ พอกลับมาถึงบ้านลูกสาวตัวร้อนมาก จึงรีบช่วยกันทำการเช็ดตัวแต่ขณะที่เช็ดตัวนั้นบุตรสาวมีอาการตัวเกร็ง ชัก กระตุก จึงรีบช่วยกันพาลูกส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงร.พ.บุตรสาวมีอาการตัวเขียวซีดแพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ และตรวจสอบว่าบุตรสาวดวงตาเป็นต้อกระจกทั้งสองข้าง โดยมีการรักษาอาการป่วยของลูกเรื่อยมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการเกร็งตั้งแต่เอวลงมาและการรักษาทางสายตา เงินที่พอมีอยู่ก็รักษาลูกไปจนหมดส่วนใหญ่หมดกับการเดินทาง มิหนำซ้ำตนเองต้องมาล้มป่วยต้องผ่าตัดปอดรั่ว จากที่เคยทำการค้าขายได้ก็ต้องหยุดขายเพราะเหนื่อยง่ายและต้องมาดูแลลูกที่ช่วยเหลือตนเองไมได้มีเพียงสามี ที่ต้องหาเงินเพียงคนเดียวซึ่งไม่พอใช้จ่าย จึงนำบ้านไปจำนองไว้เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัว จนทุกวันนี้ชักหน้าไม่ถึงหลังจนเป็นหนี้นอกระบบ
ทั้งนี้ยังต้องมาเจอมิจฉาชีพคนหนึ่งเป็นชายกลางคนเข้ามาขอประวัติของบุตรสาวที่พิการรวมทั้งขอรายละเอียดของตนเองและสามีบอกว่าจะทำเรื่องให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อ ซึ่งตนเองก็ไม่ค่อยมีความรู้จึงเสียเงินให้กับชายคนหนึ่งที่อ้างว่าจะหาหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือบุตรสาวที่กำลังป่วยเกือบ 3,000 บาท แต่ก็ไร้วี่แววและไม่พบชายดังกล่าวอีก
น.ส.กัลยา หมวกเพ็ชร เปิดเผยต่อไปอีกว่า ทุกวันนี้จะพาลูกสาวไปร.พ.เด็ก เยังต้องหยุดไว้ก่อนเพราะไม่มีค่าเดินทาง ทำให้การตรวจเช็คดวงตาเพื่อเช็คจอประสาทตา เพื่อหวังว่าบุตรสาวจะได้รับการผ่าตัดให้ดวงตามองเห็นเช่นคนปกติได้ ซึ่งตนเองอยากขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ใจดีและผู้มีทุนทรัพย์มาก ซึ่งสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ด้วยตนเองที่บ้านพัก หรือ สามารถช่วยเหลือผ่านมาได้ที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด(มหาชน) สาขาตลาดไท ชื่อบัญชีนายศรชัย วงศ์กะโซ่ เลขที่ 385-225896-2 .ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารของสามี
