ปทุมธานี ผู้ว่าเมืองปทุมฯ ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด บังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เวลา 09.30 น.วันที่ 26 มี.ค.2563 ณ ห้องประชุมบัวหลวง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานีครั้ง4/2563 ที่ โดยมีนายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พ.อ.สัญลักษณ์ ทั่งศิริ รอง ผอ.รมน.จว.ป.ท. นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)โดยรัฐบาลประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรและ ได้มีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่จะต้องนำไปปฏิบัติ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและข้อปฏิบัติของประชาชนในการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 โดยมีสาระสำคัญ กำหนดมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรค ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ได้กำหนดเป็นแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้บังคับใช้ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในการบังคับมาตรการ
ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าว่า การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปทุมธานี วันนี้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ”พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน”เช่น การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง การปิดสถานที่เสี่ยง สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้า การควบคุมราคาสินค้า มาตรการพึงปฏิบัติสําหรับบุคคลบางประเภท ให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อ การติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่ายเช่น ผู้สูงอายุตั้งแต่เจ็ดสิบปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจําตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคในระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้เด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่าห้าปีอยู่ในเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พํานักของตน
เพื่อป้องกัน ตนเองจากการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอกมาตรการตั้งด่านตรวจหรือจุดสกัดดูแลการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดเพื่อจัดระเบียบการเดินทาง การจราจร การเฝ้าระวังหรือสังเกตอาการผู้เดินทาง และพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรคและมาตรการเตรียมรับสถานการณ์หากมีการแพร่ระบาด โดยให้หน่วยงานราชการในจังหวัดปทุมธานี เปิดให้บริการปกติ โดยให้หน่วยงานราชการประสานนัดหมายกับประชาชนที่จะต้องไปติดต่อ โดยมีขั้นตอนในการบริหารจัดการ เช่นรออยู่ข้างนอกและรับบัตรคิวก่อนเข้าไปต้องมีการตรวจวัดไข้ และใช้เจลหรือแอลกอฮอล์ ล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าไปในหน่วยงาน และได้สั่งการให้หน่วยงานราชการ เว้นเก้าอี้ นั่งรอห่างกันหนึ่งเมตรเป็นอย่างต่ำ
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และอาจมีความผิดตามมาตรา 52แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2548 หรือมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542
การทำตามที่รัฐบาลรณรงค์ คือ”อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ไม่รวมกลุ่มกับผู้คนจำนวนมาก การใช้มาตรากรป้องกันโรคเพื่อตนเอง และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เช่นการใช้หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ การหมั่นล้างมือ การไม่สัมผัสหรือรับเชื้อที่มากับฝอยละอองน้ำลาย การเว้นระยะสัมผัสห่างจากผู้อื่น การไปพบแพทย์ในกรณีต้องสงสัย เป็นที่ยอมรับทั่วโลกสามารถลดความเสี่ยงได้ดีที่สุดที่เราจะป้องกันตนเอง คนที่ท่านรัก และประเทศชาติ ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้กับหน่วยงานทางการแพทย์ สาธารณสุข และหน่วยงานราชการ ในจังหวัดปทุมธานี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID- 19 โดยมี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นผู้รับมอบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: