ปทุมธานี ตรวจศูนย์กักกัน (Provincial Quarantine)จำนวน 98 ห้อง รองรับบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 พ.ค.2563 ที่อาคารที่พักภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ60 พรรษา อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี ปลัดอำเภอธัญบุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ ตรวจสถานที่รองรับกักกันเพื่อสังเกตอาการบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- I 9)
ข่าวน่าสนใจ:
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เชิญส่วนราชการ เอกชน สื่อมวลชน 50 คน เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนกระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจในชุมชน อย่างยั่งยืน
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
นายชาธิป รุจนเสรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการ (Provincial Quarantine) อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี แห่งนี้ เป็นศูนย์กักกันเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ใช้เป็นที่พักคนกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงความขัดแย้งกับชุมชน ตัดวงจรการแพร่ระบาด COVID-19 ในครอบครัว ชุมชน เพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีข้อจำกัดด้านสถานที่กักตัว มีพื้นที่กักตัว โดยอยู่ในความดูแลของสาธารณสุขและโรงพยาบาลตามข้อสั่งการของจังหวัด ปทุมธานี เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการกักกันเฝ้าสังเกตอาการบุคคลกลุ่มเสี่ยง เป็นระยะเวลา 14 วันตามระยะฟักตัวของโรค รองรับกลุ่มเสี่ยงที่ เดินทางจากต่างประเทศผ่านช่องทางต่าง ๆ
หรือมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- I 9) เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนิงานในการควบคุม ป้องกันและระงับ ยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ให้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยใช้สถานที่อาคารภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ60 พรรษา ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของศูนย์ที่พักอาศัยเพื่อการกักแยกเดิมมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นที่ตั้งของศูนย์กักกันเพื่อเฝ้าสังเกตอาการ (Provincial Quarantine) มีห้องพักจำนวน 98 ห้อง สามารถรองรับผู้เข้าพักได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 196 ราย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำนินงานจากจังหวัดปทุมธานี
สถานที่กักแยกลักษณะนี้ ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม ไม่ใช่การนำผู้ติดเชื้อมาพักอาศัย แต่เป็นกระบวนการต้นน้ำ ที่จะทำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงซึ่งต้องกักตัวเอง แต่ไม่มีสถานที่กักตัวเอง ซึ่งจะทำให้คนในครอบครัวและชุมชนปลอดภัย เพราะอยู่บ้านที่ไม่มีห้องพักแยก ไม่มีห้องน้ำแยก อยู่แฟลต หอพัก หรือ ชุมชนแออัด และต้องอาศัยอยู่ร่วมกันหลายคน ได้มาพักอาศัยที่ศูนย์ฯแทนในช่วงกักตัว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อที่จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวและชุมชน ผู้ที่เข้ารับการกักแยก จะได้เข้าใช้บริการที่ศูนย์ฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมมีบริการเครื่องอุปโภค บริโภค มีอาหารครบ 3 มื้อ สถานที่กักแยก มีอาณาบริเวณกว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวก มีแอร์ ทีวี กล้องวงจรปิด พร้อมอินเตอร์เน็ต ผู้ที่เข้ารับการกักแยกอยู่ในห้องส่วนตัวห้องละ 1 คน มีห้องน้ำในตัว และไม่มีบุคคลอื่นเข้าไปในห้องนั้น
การขึ้นไปยังอาคารของผู้ที่เข้ารับการกักแยก จะมีเส้นทางเดินที่กำหนดให้เดินตามทางนี้โดยเฉพาะ และจะใช้ลิฟต์แยก โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จะคอยดูแล ให้บริการต่างๆ ในระหว่างการกักแยก ทางศูนย์ มีอุปกรณ์ดำรงชีวิตให้ มีเสื้อผ้าที่ซักแล้วแห้งไวให้เปลี่ยนใช้ส่วนตัว มีอุปกรณ์ซักผ้า มีบริการอาหารที่นำไปวางไว้บนเก้าอี้หน้าห้องให้วันละ 3 มื้อ และมีเครื่องวัดอุณหภูมิให้ผู้กักตัววัดไข้และถ่ายภาพส่งไลน์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจทุกวัน ผู้เข้ารับการกักแยก สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ เพราะทางศูนย์มีบริการอินเทอร์เน็ตให้ใช้ฟรี ในระหว่างการกักแยก หากผู้เข้ารับการกักแยกคนใด มีอาการป่วยที่เข้าข่ายว่าจะติดเชื้อ ทีมแพทย์และพยาบาล จะประเมินอาการ และประสานรถพยาบาลนำตัวไปที่โรงพยาบาลทันทีด้วยรถพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ผู้ที่เข้ารับการกักแยกและมีผลตรวจเป็น Negative จะอยู่ให้ครบ 14 วันในการกักตัว เมื่อครบแล้วศูนย์จะออกใบรับรองจากโรงพยาบาลให้ด้วย เพื่อให้ใช้เป็นหลักฐานยืนยันกับคนในชุมชนว่าไม่ติดเชื้อ ส่วนห้องที่ผู้เข้ากักแยกย้ายออกไปแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาด ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วทิ้งไว้1-2 วันก่อนจะให้ผู้กักแยกรายใหม่เข้าพักได้
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสถานที่แล้ว ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ เพราะมีการจัดเตรียมที่พัก เครื่องนอน พร้อมแผนดูแลเรื่องอาหาร และจัดเวรยามดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับกลุ่มเสี่ยงที่จะเดินทางเข้ามาได้ นอกจากนี้ขอให้ประชาชนพื้นที่ชุมชนโดยรอบมั่นใจว่า กลุ่มบุคคลที่เข้ามากักตัว ทั้งหมดเป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจากต่างประเทศหรือผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อจะนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที ส่วนมาตรการการกักตัวที่ศูนย์กักตัว(Provincial Quarantine) ของจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งยังมีความเข้มงวดและรัดกุม โดยเฉพาะการเน้นเรื่องความสะอาด สุขอนามัยที่ดี และผู้ที่ถูกกักตัวต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: