ปทุมธานี หวั่น ” ทุเรียนหนองเสือ ” สูญพันธุ์ เกษตรกรเจ้าของสวนเผย สาเหตุหลักจากน้ำกร่อยเข้าสวน
วันที่ 30 พฤษภาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนทุเรียนสุพจน์ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 9/8 หมู่ 7 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ ต.ปทุมธานี ได้มีประชาชนจำนวนมาก ทั้งจากพื้นที่่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง ต่างเดินทางมาหาซื้อผลทุเรียนจากสวนเพื่อนำไปกินหนือนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งในบางรายถึงขนาดเหมาซื้อไปกว่า 200 กิโลกรัม ทำให้ทุเรียนที่เพิ่งออกผลผลิตมาได้ไม่กี่วันอาจจะหมดสวนได้ในไม่กี่วันข้างหน้านี้
นายสุพจน์ ตันพิชัย เจ้าของสวนทุเรียนสุพจน์ จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาสวนทุเรียนของตนเองที่มีอยู่ 50 ไร่ ต้องประสบปัญหาภัยแล้ง อย่างหนัก โดยเฉพาะน้ำจากคลองระพีพัฒน์ไม่ส่งเข้ามา จะมีก็น้ำบางส่วนจากคลองรังสิต ส่งมาบ้างแต่ก็ปรพสบภาวะน้ำกร่อยผลักดันเข้ามา ส่งผลให้ต้นทุเรียนเกิดความเสียหายและตายไปเป็นจำนวนกว่า 100 ต้น จากทั้งหมด 1000 ต้น ทำให้ผลผลิตน้อยลง เนื่องจากต้นทุเรียนได้รับน้ำกร่อย ทำให้เกิดใบไหม้ รากเน่า เกิดเชื้อราทำให้ลูกทุเรียนเสียหายใช้ไม่ได้ ซึ่งผลผลิตในปีนี้น้อยมากเกือบสิบเท่าตัวเนื่องจากเกิดจากปัญหาดังกล่าวนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- ร้อยเอ็ด...กบห.โหวดพิฆาตเข้าพบรักษาการพ่อเมืองร้อยเอ็ด ร่วมต้อนรับรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เปิดงานเดิน-วิ่งการกุศล ณ อ่างธวัชชัย 30 พ.ย. 67
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
ส่วนต้นทุเรียนที่เหลือ ก็ไม่สมบูรณ์ และยังคงตายลงไปทีละต้นสองต้น ตนเองนั้นพยายามปลูกทดแทน แต่ก็ต้องใช้เวลาและน้ำทาต้องสมบูรณ์ ทั้งนี้สวนเราประสบปัญหาแล้วมาตั้งแต่เดือนธันว่าคม ปีที่แล้ว ซึ่งตนเองคาดว่าหากเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนยังประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอและมีน้ำเค็มเข้ามาอย่างนี้ในปีต่อไปอยู่คาดว่าทุเรียนหนองเสือคงจะมีราคาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกมาก เพราะไม่มีผลผลิตมากพอต่อความต้องการของประชาชนที่เดินทางมาซื้อที่สวนของตนเอง อีกทั้งตนเองหวั่นเป็นอย่างมากว่าทุเรียนหนองเสือคงต้องสูญพันธุ์ไปจากจังหวัดปทุมธานีอย่างแน่นอน อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือบ้าง
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ปีนี้ผลผลิตไม่ดี น้อยกว่าปีที่แล้วนับ 10 เท่า และลูกก็เล็กลงเหลือเพียงแค่ลูกละ 1 กิโลกรัม – 2 กิโลกรัมเท่านั้น รวมๆแล้วก็ราว 3 ตัน ซึ่งก็ขอราคากับผู้ที่มาซื้อที่สวน โดยขายในราคากิโลกรัมละ 130 – 150 บาท ซึ่งผู้ซื้อก็เข้าใจ และยินดีที่จะซื้อ แม้ว่าตนจะขายราคานี้ แต่ด้วยผลผลิตที่ลดน้อยลงอย่างมาก ก็ทำให้ปีนี้ขาดทุนแน่ๆแล้ว ทั้งค่าแรงตนเองลูกน้อง ค่าใช้จ่ายต่างๆรวมแล้วก้ขาดทุนราวๆ 5 แสนบาท
ด้าน นางสมพืศ (สงวนนามสกุล) ผู้ที่มาซื้อทุเรียน กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาจากพระนครศรีอยุธยา เพื่อมาซื้อทุเรียนที่สวนแห่งนี้ โดยมาซื้อประจำกันได้ 2-3 ปี แล้ว ปีนี้ราคาหน้าสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งก็แพงขึ้นจากปีก่อนๆ แต่ด้วยความที่ทุเรียนหนองเสือมีความอร่อยๆ คล้ายทุเรียนเมืองนนท์ และผลก็น้อยลงไปทุกปี จึงไม่เกี่ยงราคา ซึ่งตนเองนั้นมาซื้อไปกินและญาติญาติผู้ใหญ่ ไม่ได้ซื้อไปขายหรือจไหน่ายแต่อย่างใด และจากการพูดคุยกับเจ้าของสวนก็ห่วงอยู่เหมือนกันว่าทุเรียนที่หนองเสืออาจจะสูญพันธุ์ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะน่าเสียดายอย่างยิ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: