X

ครูสาวร้อง “ปวีณา” เจ้าหนี้นอกระบบทวงเงิน-ประจานผ่านเฟซบุ๊ก สร้างความอับอายถูกมองว่าเป็นคนโกง

ปทุมธานี ครูสาวร้อง “ปวีณา” เจ้าหนี้นอกระบบทวงเงิน-ประจานผ่านเฟซบุ๊ก สร้างความอับอายถูกมองว่าเป็นคนโกง

ช่วงวิกฤติโควิด-19 ขาดรายได้ ต้องกู้เงินหนี้นอกระบบผ่านกลุ่มเงินกู้ทางเฟซบุ๊ก เงินต้น 1 พันบาท จ่ายดอกไปแล้ววันละ 100 บาท 70 วัน รวมเป็นเงิน 7,000 บาท แต่เงินต้นยังคงอยู่ พอขาดส่ง 1 วัน เจ้าหนี้โพสต์เฟซบุ๊กประจาน “ครูเงินเดือนน้อยไปใช่มั๊ยถึงต้องมาโกงเงิน 1,200 บาท ให้ผ่อนก็ไม่ผ่อน” และด่าหยาบคาย ข่มขู่ สร้างความอับอาย ทำให้ไม่มีรายได้จากการสอนพิเศษ เพราะผู้ปกครองเด็กมองว่าครูเป็นคนโกง

วันอังคารที่ 18 ส.ค.63 เวลา 13.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.แป๋ว (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี อาชีพรับราชการครู โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ตนเองกับสามีพยายามช่วยกันทำมาหากินมาโดยตลอด และต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่ชราอีกทั้งลูกสาวที่กำลังเรียนหนังสือ ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย เงินเดือน 3 หมื่นเศษ ก็ถูกหักหนี้ครูแต่ละเดือนจะเหลือประมาณ 5 พันกว่าบาท ก็ดิ้นรนทำงานทุกอย่างเพื่อหารายได้เสริม ทั้งขายอาหาร , หมูสะเต๊ะ รับจ้างสอนพิเศษเด็กนักเรียน ส่วนสามีที่เป็นครูอัตราจ้างก็ขับรถรับส่งเด็กนักเรียนไปด้วย


น.ส.แป๋ว กล่าวอีกว่า กระทั่งช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาด ตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตนขายของก็ไม่ได้ นักเรียนก็ไม่มีเรียนพิเศษ จึงทำให้เงินขาดมือต้องหันไปกู้เงินนอกระบบผ่านทางกลุ่มเงินกู้ในเพจเฟซบุ๊ก แอพพลิเคชั่นไลน์ และแอพพลิเคชั่นเงินกู้ รายละ 500, 700, 1,000, 1,200 บาท ซึ่งก็ต้องส่งดอกลอยให้เจ้าหนี้รายละ 100-200 ต่อวัน โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารตามเวลาที่กำหนด จนกว่าจะมีเงินต้นไปปิดยอด พอตนหมุนเงินไม่ทันก็ถูกเจ้าหนี้ตามทวงจนต้องกู้เจ้าหนี้รายใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อเอาเงินมาจ่ายให้ทันเวลา จนตอนนี้มีหนี้นอกระบบอยู่ 19 บัญชี รวมยอดเงินกู้ทั้งหมด 23,000 บาท ซึ่งตนเองส่งแต่ดอกเบี้ยตรงเวลามาโดยตลอด ระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปทั้งหมดทุกเจ้ารวมแล้วประมาณ 79,015.75 บาท แล้ว ซึ่งเกินกว่ายอดหนี้ที่กู้มาทุกรายหลายเท่า แต่ยอดหนี้ก็ยังอยู่เท่าเดิม ซึ่งตนก็ไม่เคยคิดที่จะโกงใครพยายามที่จะหาส่งจ่ายหนี้ให้ได้ทุกเจ้าในทุกๆ วัน


จนเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนขาดส่งดอกเจ้าหนี้รายหนึ่งที่กู้เงินมา 1,000 บาท ที่จะต้องส่งวันละ 100 บาท ไป 1 วัน (ถ้าจะปิดบัญชีต้องจ่าย 1,200 บาท) เจ้าหนี้ได้ส่งข้อความหยาบคายมาด่าทอทวงเงินผ่านทางแชทเฟซบุ๊ก และไลน์ อีกทั้งคอมเม้นต์ประจานใต้โพสต์ของตน โดยใช้รูปหน้าของตนที่ถือบัตรประชาชน และเขียนข้อความระบุ “ครูเงินเดือนน้อยไปใช่มั๊ยถึงต้องมาโกงเงิน 1,200 บาท ให้ผ่อนก็ไม่ผ่อน” ซึ่งเจ้าหนี้รายนี้ทวงหนี้ประจานตนไม่พอ ยังโทรไปหาเพื่อนของตนเพื่อทวงเงิน และยังตามไปถึงเฟซบุ๊กของสามีตนประจานเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ตนอับอายมาก เวลาไปทำงานก็ถูกเพื่อนร่วมงานมองแปลกๆ อีกทั้งผู้บริหารยังเรียกไปตักเตือน ส่งผลกระทบทางด้านหน้าที่การงาน จนตนเครียดเคยคิดที่จะไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พอคิดถึงลูกและครอบครัวก็ต้องอดทนสู้ชีวิตต่อ

“ตนไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจ้าหนี้รายนี้ ที่ตนเป็นหนี้ 1,000 บาท และส่งดอกเบี้ยวันละ 100 บาท มาแล้วถึง 70 วัน เป็นเงิน 7,000 บาท จะต้องตามทวงประจานด่าหยาบคายข่มขู่กันถึงขนาดนี้เลยหรือ ตนรู้สึกกลัวมากเพราะเจ้าหนี้รายนี้จะมีกลุ่มไลน์ลูกหนี้อยู่ เวลาที่ใครจ่ายเงินไม่ตรงเวลาก็จะส่งคนไปทวงถึงบ้านและส่งรูปมาในไลน์เพื่อประจานและเตือนลูกหนี้คนอื่นว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างเพราะจะต้องโดนตามทวงแบบนี้ ทั้งนี้ตนเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัยจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.คลองสิบสอง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ” น.ส.แป๋ว กล่าว


หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.กรณ์เสฎร์ วงศ์สีเงิน ผกก.สภ.คลองสิบสอง เพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม โดย นางปวีณา กล่าวว่า ช่วงโควิดทุกวันนี้คนเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมาก โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยโหดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผู้กู้ไม่มีวันชำระหนี้นอกระบบได้หมดและต้องเป็นหนี้ไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับคุณครูรายนี้ นอกจากนี้ขอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์การกู้เงินภาครัฐดอกเบี้ยต่ำให้ประชาชนรับรู้เพื่อจะได้ไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบอีกต่อไป.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี