ปทุมธานี เลขาฯป.ป.ส. สั่ง 3 หน่วยงานเร่งตรวจสารต้องสงสัยให้ครบถ้วน พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจชี้ให้ดูว่ายังเป็นสีม่วง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้มีการเปิดห้องเก็บของกลาง แสดงการตรวจของกลางกว่า 400 กระสอบ โดยนักวิทยาศาสตร์จาก ป.ป.ส. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมสรุปผลการตรวจหลังทราบผล ณ สำนักงาน ปปส. ภาค 1 อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยเบื้องต้น ยังไม่มีความคืบหน้าในการจะแถลงข่าวเกี่ยวกับของกลาง 400 กระสอบ โดยมีเพียงกองทัพนักข่าว จากสำนักต่างๆ จำนวนมาก เดินทางมารอ ที่บริเวณชั้น 1
นอกจากนี้ยังมี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลัดฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเพื่อรอทำการตรวจสอบของกลาง โดยด้านหน้าห้องเก็บของกลาง ได้มีการนำผ้าใบสีดำมาปู คล้ายจะนำของกลางออกมาเทตรวจสอบเพื่อโชว์ให้สื่อมวลชนได้ดู ต่อมาเวลา 11.30 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการป.ป.ส.) เดินทางมาดู และ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบของกลางจำนวน 406 กระสอบ ที่ป.ป.ส. ยังไม่ได้ทำการตรวจสอบ ที่เป็นของกลางที่ยึดได้จากจังหวัดฉะเชิงเทราจำนวน 475 กระสอบ โดยในวันนี้เป็นการตรวจของกลางที่ต้องสงสัยทั้ง 11.5 ตันอย่างเป็นทางการครั้งแรก เพื่อพิสูจน์คัดแยกสารว่าเป็นสารเสพติดเคตามีน หรือสารไตรโซเดียมฟอสเฟต หรือสารชนิดอื่นเจือปนอยู่หรือไม่
การตรวจสอบครั้งนี้ เป็นปฎิบัติการร่วมกัน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์จาก ป.ป.ส. สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนักวิทยาศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยใช้วิธีการตรวจแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกใช้ชุด test kid หรือชุดน้ำยาตรวจสารเคมีประเภทเคตามีน ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะมีชุดตรวจต่างกัน โดยทำการตรวจสอบของกลางทุกกระสอบ เพื่อยืนยันว่าของกลางทั้งหมดมาจากโกดังเดียวกัน จากนั้น ขั้นตอนที่ 2 ให้ 3 หน่วยงานเก็บตัวอย่สงจากทุกกระสอบไปตรวจโครงสร้างสารในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให่ยืนยันว่าเป็นสารเคตามีหรือสารชนิดใด โดยกระบวนการตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ด้านเลขา ป.ป.ส. ย้ำว่า ผลการตรวจกลุ่มตัวอย่างครั้งแรกใน 66 กระสอบในโกดังในขณะจับกุมเป็นการสุ่มเก็บตัวอย่างจากของกลางทั้งหมด ผ่านการทดสอบด้วย test kid ที่ได้มาตรฐาน ISO เป็นหลักการสากลที่ปฏิบัติกัน โดยผลการตรวจสอบสารเปลี่ยนเป็นสีม่วงซึ่งหมายถึงมีสารเคตามีน ทำให้เกิดความมั่นใจในผลนำมาสู่การแถลงข่าว แต่เมื่อนำสารกลุ่มตัวอย่างเข้าห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่าทั้งหมดเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต จึงเป็นความรู้ใหม่ให้กับ ป.ป.ส. ขณะเดียวกัน ทาง ป.ป.ส.ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนของกลาง ตามที่กระแสสังคมตั้งคำถามแต่อย่างใด ทั้งนี้มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ให้ ป.ป.ส.และวงการนักวิชาการ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการทรวงยุติธรรมได้กำชับให้จัดงานสัมมนาวิชาการให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง
ด้านนางสาวกัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ ผอ.สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ป.ป.ส. อธิบายขั้นตอนปฏิบัติการตรวจสอบ โดยจะนำกลางมาชั่งน้ำหนัก และเทเพื่อจำแนกลักษณะของสาร และจัดเก็บตัวอย่างในกระสอบปริมาณ 2 กรัม แบ่งเป็นการตรวจ ออกเป็น 4 ชุด จากนั้นนำมาทดสอบในหลอดทดลองกับน้ำยา 2 ชนิด คือ 1. น้ำยา test kid ที่ให้ผลสีม่วงของ ป.ป.ส. และน้ำยา test kid ที่ให้ผลสีส้มของตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จากนั้นจะนำตัวอย่างทั้งหมดทุกกระสอบไปทำการทดสอบพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ของทั้ง 3 หน่วยงาน หลังจากได้ผลการทดสอบทุกกระสอบแล้ว จะนำผลมารวมกันเพื่อสรุปความชัดเจนว่าเป็นสารชนิดใด
ทั้งนี้ ผอ. สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ป.ป.ส. ระบุว่า ผลการตรวจเบื้องต้นในวันนี้ไม่ว่ากลุ่มตัวอย่างจะเป็นเคตามีนหรือไตรโซเดียมฟอสเฟส test kid จะให้ผลเป็นสีม่วงแน่นอน เพราะผลการตรวจในครั้งแรกและครั้งมาเป็นสีม่วง แต่ผลที่ชัดเจนขอให้รอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: