ปทุมธานี ผู้ว่าเมืองปทุมฯ สั่งปิด 2 ตลาดค้าส่งชื่อดังย่านรังสิต หลังพบแรงงานต่างด้าวติดโควิด19 เพิ่ม 9 คน
เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 2 ม.ค.64 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวกับโรคติดต่อ ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อไวรัสโควิด19 เพิ่มอีก 9 คน หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด19 .ให้กับแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในตลาดสุชาติและตลาดพรพัฒน์
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าในวันนี้ที่เรียกประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับโรคติดต่อนั้นเพราะได้พบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อไวรัสโควิด19 ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่พบเชื้อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วและซึ่งขณะนี้ได้สั่งปิดทั้งสองตลาดคือตลาดสุชาติ และตลาดพรพัฒน์ เพราะต้องทำความสะอาดและได้คัดกรองแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในตลาดอีกจำนวนหนึ่ง ในส่วนที่ประชุมร่วมกันเพิ่มเติมคือให้ทำงานปิดเป็นเวลา 14 วันในส่วนของผู้ประกอบการที่จะทำงานเปิดกิจการนั้นต้องปิดไปแล้ว3และยื่นเรื่องต่อคณะทำงานก่อน และเวลานี้ก็ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวทั้งสองตลาดรวมถึงพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทั้งหมดสองตลาด และถ้าสถานการณ์ดีขึ้นผู้ประกอบการก็สามารถที่จะเปิดกิจการได้ และทางเราตรวจสอบแล้วว่าบุคคลที่ติดเชื้อนั้นเข้าไปในทั้งสองตลาดปิดเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ส่วนยอดผู้ป่วยในวันนี้ต้องนำไปรวมกับยอดศบค.อีกครั้งซึ่งผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 วันนี้มีทั้งหมด 9 ราย
ส่วนในการสั่งปิดพื้นที่เสี่ยงตามมติที่ประชุมครั้งที่ 5/2564 วันที่ 1 มกราคม 2564 จึงให้ปิดสถานที่ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ดังต่อไปนี้ข้อ 1 ให้ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไว้เป็นการชั่วคราว ดังนี้
1. สนามชนไก่ สนามกัดปลา รวมทั้งสนามซ้อมหรือสนามประกวด แข่งขันฝึกซ้อมสัตว์/สิ่งของ หรือกิจกรรมในทำนองเดียวกัน 2.สนามกีฬาในร่ม โรงยิม สถานที่ออกกําลังกาย ฟิตเนส สนามชกมวย รวมถึงสนามฝึกซ้อม โรงเรียนฝึกสอนกีฬาทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน 3.โต๊ะสนุกเกอร์ และบิลเลียด 4.สถานที่บริการสักหรือเจาะผิวหนังส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย นวดแผนโบราณ/นวดไทย/นวดเพื่อสุขภาพ/นวดเพื่อเสริมความงาม และ 5. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชน ห้ามให้บริการตามบ้านหรือสถานที่อื่นๆ 6. ร้านเกมส์และร้านอินเทอร์เน็ต 7.สวนสนุก สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ตู้เกมส์ หรือเครื่องเล่นเกมส์ทุกประเภท 8. สระว่ายน้ำ สวนน้ำ หรือกิจการอื่นๆ ในทํานองเดียวกัน 9. ศูนย์พระเครื่อง – พระบูชา และสนามพระเครื่อง – พระบูชา
10. บ่อตกกุ้ง บ่อตกปลา หรือกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน 11.สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น และสถานบันเทิงอื่นที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ รวมถึงสถานที่มุ่งเน้นการขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้สุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อดื่มกินในสถานที่นั้น 12. สถานศึกษาทุกประเภทของรัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันกวดวิชา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสอนทักษะกีฬา สถานที่รับเลี้ยงเด็กและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 13. ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม รถเข็น และแผงลอยจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ภัตตาคาร ห้องอาหาร สโมสร หรือสถานประกอบการอื่นใดที่จําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ผ่อนผันให้สามารถเปิดได้เฉพาะการจําหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อนํากลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น ยกเว้นโรงอาหารในโรงพยาบาล ที่จัดสําหรับเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการ และโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 สามารถเปิดบริการให้เฉพาะผู้เข้าพักได้ตามปกติ และต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด 14. ให้งดจัดการแสดงคอนเสิร์ต อันเป็นการชุมนุมคนหรือรวมกลุ่มกันของบุคคลจํานวนมาก
ข้อ 2 ห้ามชุมนุม ห้ามมิให้มีการชุมนุม ทํากิจกรรม หรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือการกระทําดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ข้อ 3 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้า – ออก พื้นที่จังหวัดปทุมธานีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเป็นพ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในบรรดาประกาศและคําสั่งที่ได้ออกไว้ก่อนหน้านี้ให้มีผลบังคับใช้ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับคําสั่งฉบับนี้
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจําเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2564 หรือจนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงนั้นเราทำตามมาตการควบคุมโรคเพราะอยากให้โรคมันนิ่ง ซึ่งถ้าภาพร่วมทั้งบอกว่าอยากให้ปิดถึงวันที่ 1กุมภาพันธ์ 2564 นั้นต้องประชุมใหญ่กับศบค.อีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: