ปทุมธานี ผู้ว่าฯ หมูป่า!! ลุยตรวจน้ำท่วมมั่นใจไม่เท่าปี 54 สั่งเข้มเรือทุกชนิดขับช้าป้องน้ำกระแทกบ้านประชาชน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 5 ต.ค.2564 ที่ ท่าเรือสวนเทพปทุม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อม นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นางสาวธนียา นัยพินิจ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี พันเอกชิตพล กึนสี รอง ผอ.รมน. จังหวัดปทุมธานี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายมนตรี ลังกาพินธุ์ นายอำเภอสามโคก นางสาวบุษนี แพร่วิศวกิจ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดปทุมธานี นายนิคม วัชรดิเรกรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปทุมธานี นายประสิทธิ์ ไชยเวช ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 นายอภิวัฒน์ เลาหวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ลงเรือตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอสามโคกพร้อมรับฟังการรายงานจากกรมชลประทานถึงระดับน้ำและการระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ( D.R.A.T) บินโดรน มุมสูงสำรวจบ้านเรือนประชาชนริมน้ำเพื่อสังเกตการณ์ผลกระทบจากระดับน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ออกตรวจพบว่าระดับน้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลายหลังคาได้รับความเดือดร้อนบางหลังสามารถใช้ชั้นสองของบ้านอาศัยอยู่ รวมทั้งยังพบว่าวัด โรงเรียน ก็ถูกน้ำเข้าท่วมบางส่วน ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลความเป็นอยู่และมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้เฝ้าระวังการประกาศเตือนถึงสถานการณ์การระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งให้ระวังระวังดูแลบุตรหลานจากอันตรายทางน้ำ
โดยภาพรวมในพื้นที่ คันกั้นน้ำของจังหวัดปทุมธานียังเหลือระดับรับน้ำได้อีกเยอะ ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 2.40 เมตร แต่คันกั้นน้ำของเรา เฉลี่ยแล้วความสูง 3.00-3.50 ยังรับได้อยู่ ขณะที่เราวิ่งดูสถานการณ์น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง กลับมาตอนนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว 6-7 ซ.ม. นอกจากนี้ได้สั่งกำชับคุมเข้มประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเรือลากจูง และเรือที่ใช้สัญจรไปมาให้ลดระดับความเร็วในบริเวณใกล้กับบ้านเรือนประชาชนที่ติดริมน้ำด้วย เพื่อลดแรงกระแทกจากคลื่นน้ำกระทบตัวบ้าน
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร กล่าวต่อว่าสรุปเรายังมั่งใจว่าปริมาณน้ำที่เกิดขึ้นเท่าที่ดูแล้วสถานการณ์เทียบกับปี 60 เทียบกับปี 54 ที่ผ่านมา สถานการณ์ยังน้อยกว่าปี 54 มาก ระดับปริมาณน้ำตรงนี้เรารับได้ 3500 ลบ.ม./วินาที แต่ขณะนี้ ปริมาณน้ำปล่อยมาแค่ 3,000 ลบ.ม./วินาที ส่วนน้ำที่มาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทางชลประทานก็ได้บายพาสน้ำ ลงคลองระพีพัฒน์ ลงคลองรังสิต ออกคลองหก เพื่อระบายน้ำออกไปทางตะวันออก ระบบสูบน้ำของเราก็ทำงานเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการกรมชลประทานในพื้นที่ติดตามและประเมินช่วงน้ำหนุนจากสภาพอากาศโดยเฉพาะพายุ เพื่อเตรียมการไว้หากเกิดกรณีฉุกเฉินจะได้มีกำลังพลพร้อมช่วยประชาชนได้ทันที
