ปทุมธานี นายกแจ๊ส ฉุนเดือด!! กำนันห้ามตั้งแบริเออร์ช่วยประชาชนป้องกันน้ำท่วมถนน ลั่นเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณใต้สะพานข้ามคลองลากค้อน หมู่ 3 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี และทีมผู้บริหารได้ลงพื้นที่ดูความเรียบร้อยในการวางแนวแท่งแบริเออร์กั้นน้ำท่วมป้องกันพื้นที่เกษตรเสียหาย
โดยมี นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ นายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี เขตอำเภอลาดหลุมแก้ว ได้ดำเนินการนำแท่งแบริเออร์ร่วม 300 อัน เตรียมมาวางเรียงเป็นแนวเพื่อป้องกั้นน้ำท่วมบริเวณ ทางกลับรถ ใต้สะพานข้ามคลองลากค้อน หมู่ 3 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ขณะเตรียมยกได้มีชายคนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นกำนัน โทรศัพท์มาหานายสมร แตงอ่อน ส.อบจ ลาดหลุมแก้ว สั่งห้ามไม่ให้ อบจ.นำแท่งแบริเออร์เข้ามากั้นน้ำ โดยให้เหตุผลว่าตนเองก็สูบน้ำระบายผ่านทางนี้
แต่เมื่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มาถึงทีมผู้บริหารได้ลงพื้นที่ดูความเรียบร้อยได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทราบ จากนั้นทาง พล.ต.ท คำรณวิทย์ ได้สั่งการให้ดำเนินการต่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนก่อน โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้ยึดที่ฝ่ายไหน หากไม่ดำเนินการรถยนต์ที่ใช้เส้นทางจะสัญจรลำบาก รถเล็กก็จะไม่สามารถผ่านไปได้เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและข้ามถนนเข้าไปแล้วรวมถึงป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เกษตรของประชาชนด้วย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ผมไม่สนใจที่มีกำนันในพื้นที่จะไม่ให้นำแท่งแบริเออร์มากั้นน้ำ ในฐานะที่ผมเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี และพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำในคลองลากค้อน หมู่ 3 ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ได้เอ่อล้นเข้าท่วมผิวจราจรทำให้รถเล็กใช้เส้นทางลำบาก เราจึงหาแท่งแบริเออร์ เพื่อที่จะมาวางแล้วเอากระสอบทรายกั้น รถขนาดเล็กสามารถผ่านได้ ผมไม่คิดว่าจะมีผู้นำชุมชนที่มีวิสัยทัศน์ที่แคบแบบนี้ จะทำอะไรต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก ต้องฝากบอกกำนันด้วยขอให้นึกถึงประชาชนเป็นหลัก อย่างไรตนเองก็จะต้องเอาแท่งแบริเออร์ลงเพื่อประชาชน
ซึ่งตลอดแนวถนนเลียบคลองลากค้อนระยะทางเกือบยี่สิบกิโลเมตรระดับน้ำในคลองเยอะมากจนบางช่วงน้ำเอ่อล้นตลิ่งคลอง ซึ้งน้ำได้มาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นน้ำท่วมทุ่ง มาจากคลองพระยาบันลือ ทางเราจึงได้นำรถแบคโฮจำนวน 3 เครื่องมาทำคันกั้นน้ำป้องกันในจุดที่ต่ำและเสี่ยงที่น้ำจะเอ่อล้นข้ามผิวถนนและเข้าท่วมพื้นที่เกษตร ซึ่งจุดที่ต่ำที่สุดคือบริเวณสะพานข้ามคลองลากค้อน ที่ใช้กลับรถ จึงจำเป็นจะต้องใช้แท่งแบริเออร์เพื่อกั้นน้ำ เมื่อสำรวจแล้วยังมีหลายจุดที่พบว่าน้ำเอ่อจนเทียบเท่าพื้นที่ถนนแล้ว ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่ทางด้านอำเภอลาดหลุมแก้วยังต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวันเนื่องจากน้ำจากคลองพระยาบันลือรับน้ำจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดั้งนั้นเราจึงต้องป้องกันสร้างคันดินป้องกันตามแนวคลองระบายน้ำและคลองลากค้อน ป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อล้น เราป้องกันไว้ก่อน ไม่ใช้น้ำล้นแล้วค่อยมากั้น
ในส่วนของคลองชลประทาน(คลองขุดใหม่) ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี รับน้ำจากคลองพระยาบันลือมาโดยตรง ทางนายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ นายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี เขตอำเภอลาดหลุมแก้ว ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่พบว่าน้ำจากคลองพระยาบันลือได้ท่วมอยู่ในทุ่งเยอะมาก และน้ำท่วมทุ่งเหล่านั้นจะต้องไหลมาทางคลองระบายน้ำอำเภอลาดหลุมแก้วแน่นอน ต่อไปจะต้องมีการแก้ปัญหานี้อย่างถาวร อย่างเมื่อ 2 วันก่อนมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งข้ามผิวจราจร สจ.ในพื้นที่จะต้องนำรถแบคโฮคันเล็กมาทำคันกั้นป้องกันน้ำ หากน้ำท่วมจะส่งผลเสียต่อนาข้าวของเกษตรกร
ส่วน นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอลาดหลุมแก้วจะมีคลองหลักอยู่ 3 คลอง ประกอบด้วย 1 คลองลากค้อน 2.คลองชลประทาน 3.คลองพระอุดม ในส่วนที่วิกฤตจะเป็นคลองลาดค้อนและคลองชลประทาน ที่รับน้ำจากคลองพระยาบันลือมา ซึ่งน้ำเหล่านี้มาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสุพรรณบุรี และมีปริมาณที่มาก จึงจำเป็นจะต้องระบายน้ำเพื่อลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ดังนั้นอำเภอลาดหลุมแก้วจะต้องรองรับนำที่จะระบายมา
เบื้องต้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้สั่งการให้ รถแบคโฮจำนวน 3 เครื่องเพื่อมาช่วงทำคันป้องกันน้ำไม่ให้เอ่อล้นท่วมพื้นที่เกษตรพื้นที่อำเภอลาดหลุมแก้ว ปัจจุบันเราต้องประเมินสถานการณ์กันวันต่อวัน มวลน้ำจากอยุธยาและสุพรรณบุรีได้ไหลมายังคลองซอยต่าง ๆ ของอำเภอลาดหลุมแก้วแล้วจึงต้องเฝ้าระวังกัน 24 ชั่วโมง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: