ปทุมธานี ด่วน ผู้ว่าหมูป่า เซ็นคำสั่งปลดนายกคนดังเมืองปทุม หลังถูก ป.ป.ช.เชือดทุจริต 7 โครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ปทุมธานี ได้ลงนามเซ็นคำสั่งในหนังสือ คำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 1 / 2565 เรื่อง ให้นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลางพ้นจากตำแหน่ง ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2565
วันที่ 3 พย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณ๊ที่จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องกล่าวหานายสายัณ นพขำ นายกเหศมนตรีตำบลบ้านกลาง และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีกำหนดราคา ขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างถนนลูกรังและวางท่อระบายน้ำพร้อมบ่อพัก หมู่บ้านมณีรินทร์ หมู่ที่ 1 และโครงการก่อสร้างปรับปรุงยกระดับ ช่อมแชมถนน และวางท่อระบายน้ำอื่นๆ อีก 7 โครงการ สูงกว่าความเป็นจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคาบางราย กรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกลาง ประกอบด้วย (1) โครงการก่อสร้างถนนลูกรัง และวางท่อระบายน้ำพร้อมบ่อพัก หมู่บ้านมณีรินทร์ หมู่ที่ 1 (2) โครงการก่อสร้างยกระดับถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต บริเวณซอยมิตรบ้านกลาง หมู่ที่ 2 (3) โครงการปรับปรุงก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต บริเวณเลียบคลองประปา หมู่ที่ 1 และเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ประกอบด้วย (1) โครงการปรับปรุงช่อมเซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมวางท่อระบายน้ำ (2) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต (3) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็กผิวจราจรพร้อมรางวี ถนนจัดสรรกรมการปกครอง หมู่ที่ 2 (4) โครงการปรับปรุงช่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมรางวี และ (5) โครงการวางท่อระบายน้ำพร้อมรางวี บริเวณคลองสะพาน-หน้าอนามัย หมู่ที่ 3 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับไว้พิจารณา
โดยมอบหมายคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งจัดทำรายงานการไต่สวนเบื้องต้นเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา และคณะกรรมการ ป.ป.ช ได้พิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นดังกล่าวแล้ว มีมติว่า การกระทำของนายสายัณ นพขำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 153 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐโดยทุจริต ทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไขหรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราศา โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขัน ในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใด ได้มีสิทธิ์เข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าผืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 และฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และมีมตีให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายสายัณ นพขำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป
ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายสายัณฯ อยู่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลางต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2555 และได้พันจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เมื่อนับระยะเวลาการพ้นจากตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน (1 กุมภาพันธ์ 2564 – 1 สิงหาคม 2565) ปรากฎว่านายสายัณฯ พ้นจากตำแหน่งยังไม่เกิน 2 ปี (1 ปี 5 เดือน) ดังนั้น จึงสมควรพิจารณาสั่งให้นายสายัณฯ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เหตุเพราะกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. จังหวัดปทุมธานีได้พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีหมายเลขดำที่ 18-1-176/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 242-1-50/2564 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2564 ประกอบความเห็นของคณะไต่สวนเบื้องต้นแล้ว ปรากฎข้อเท็จจริงตามทางไต่สวน
โดยท้ายหนังสือยังระบุว่า จึงสมควรพิจารณาสั่งให้นายสายัณ นพขำ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง เหตุเพราะกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. จังหวัดปทุมธานี จึงได้พิจารณตามแนวความเห็นของอำเภอเมืองปทุมธานีต่อไป ประกอบแนวทางปฏิบัติตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ขี้มูลความผิดและตามคำวินิจฉัย และปฏิบัติตามข้อสั่งการตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลับ ด่วนที่สุด ที่ มท 0804.3/3314 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 หนังสือกระทรวงมหาดไทย ลับ ที่ มท 0804.3/6261 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2564 และหนังสือกระทรวงมทาดไทย ลับ ที่ มท 0804.3/6313 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ดังนั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 98 วรรคสามและวรรคสี่ และพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 ประกอบหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0804.3/ว 51 ลงวันที่ 5 มกราคม 2564 หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท 0804.3/ว 711 ลงวันที่ 7 เมษายน 2564 และคำสั่งจังหวัดปทุมธานี ที่ 6078/2564 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2564 จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) 2562 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 98 วรรคสามและวรรคสี่ ประกอบหนังสือแนวทางปฏิบัติดังกล่าว สั่งให้นายสายัณ นพขำ พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ด้วยเหตุและพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้น
อนึ่ง การโต้แย้งคำสั่งนี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองกลาง หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองกลาง ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบคำสั่ง ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ลงชื่อ
(นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร) ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: