ปทุมธานี ขาสั้นไล่ตีกันชาวบ้านผวากลัวโดนลูกหลง วอนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดูแลเข้มงวดก่อนสูญเสีย
วันที่ 14 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านร้านค้าในบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี เป็นห่วงปัญหาเด็กนักเรียนไล่ตีกัน จากที่มีการเปิดเผยภาพกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มเด็กนักเรียนขาสั้นมัธยมชายกลุ่มใหญ่ไล่ตีกันบริเวณ ท้ารถเมล์สายรังสิต สาย 33 ในเขตเทศบาลเมืองปทุมธานี ถนนเจริญผลวัฒนา ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยมักจะเกิดเหตุในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน ซึ่งในเวลานั้นมักจะมีกลุ่มนักเรียนรวมกัน และจะทะเลาะวิวาท ไล่ตีกันหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้กลุ่มเด็กเหล่านี้จะมีอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดปิงปอง ปืนปากกา มีดพร้าด้ามยาว ไล่ตีกันและวิ่งไล่กวดกันไปมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาในที่เกิดเหตุ เหล่านักเรียนที่ก่อเหตุก็ได้แยกย้ายกันแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
จากการสอบถาม ป้าเขียว (นามสมมุติ) ขายขนมตรงข้ามตลาดหน้าโรงเก่าเจริญผลรามา กล่าวว่า เมื่อ 2 วันก่อนก็เพิ่งจะเกิดเหตุตีกัน โดยเกิดเหตุบริเวณข้างโรงหนังเก่า ซึ่งพักนี้เกิดเหตุบ่อยครั้ง ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเด็กจากที่ไหนมากันเยอะมาก เท่าที่เห็นเป็นเด็กนักเรียนขาสั้นชั้นมัธยม อาจจะมีนักเรียนอาชีวะด้วยนิดหน่อย โดยวิ่งกระจายอยู่แถวนี้รอบๆ ตลาด บางส่วนก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หนี ฉันเห็นก็ไม่รู้จะทำไงได้ ก็ได้แต่โทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าตำรวจจะมา ก็ไปกันหมดแล้ว ไม่เคยทันเด็กเลย อยากฝากถึงเด็กเยาวชนที่ยังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ขอให้เลิกเถอะ พิการไป พ่อแม่จะแย่ ต้องมาให้พ่อแม่มานั่งเลี้ยง หวังไปให้เรียนแล้วจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้
นางสมใจ (นามสมมุติ) ร้านขายเสื้อผ้า กล่าวว่า ก็มีเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทไล่ตีกันเรื่อย ๆ ตามสไตล์วัยรุ่น ช่วงที่โรงเรียนเปิดก็จะเป็นแบบนี้ตลอด เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่จะเตือนเขาก็ไม่ฟังเรา ด้วยความที่เขาเป็นวัยรุ่น แต่คนที่จะดูแลเขาได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นคุณพ่อคุณแม่ พ่อแม่เป็นกำลังสำคัญที่จะต้องดูแลเขา และคอยเตือนเขา ไม่ใช่ว่าลูกฉันเป็นเด็กดีตลอดเวลา ควรจะต้องดูแลลูกให้มากที่สุด
ป้าแตง (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายอาหารในตลาด กล่าวว่า ไม่เห็นตอนที่นักเรียนตีกัน เห็นแต่เขาวิ่งหนีผ่านหน้าร้าน โดยเขาก็วิ่งหนีกันไปเป็นกลุ่ม ๆ ของเขา เห็นแบบนี้แล้วก็สงสารพ่อแม่เพราะว่าเด็กดื้อมีเยอะ อนาคตของเด็กคงไปได้ไม่ไกล ต้องให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเขาเตือนลูกหลานเขากันเอง
นางส้ม (นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายของชำข้างท่ารถประจำทาง กล่าวว่า เราเองเป็นคนที่นี่ก็ไม่อยากไปเกี่ยวข้องกันเรื่องพวกนี้ เพราะเวลาวัยรุ่นตีกันแล้วน่ากลัว ช่วงเปิดเทอมใหม่นี้ที่นักเรียนกลับมาตีกัน บางครั้งหลบกันแทบไม่ทัน เด็กนักเรียนที่ตีกันเป็นนักเรียนในระแวกนี้ เราก็สงสารพ่อแม่เขาที่ส่งให้เรียนไม่เรียน เด็กสมัยนี้เตือนก็ไม่ได้ หากไปเตือนก็จะย้อนมาว่าเราอีก ได้แต่คอยหลบเดี๋ยวจะถูกลูกหลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ รวมทั้งครูอาจารย์ต้องเข้มงวดกว่านี้ ถ้าเกิดการสูญเสียจะเสียใจมันก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา นับวันจะหนักขึ้นทำให้ชาวบ้านที่ทำมาหากินเกิดความหวาดระแวงไม่สบายใจ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะโดนลูกหลงจากความคึกคะนองอย่างสิ้นคิดของเด็กพวกนี้ อยากขอร้องเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องช่วยทำให้มันหมดไปชาวบ้านจะได้ทำมาหากินกันได้อย่างสบายใจ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปสังคมจะอยู่กันอย่างไร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: