X

ปทุมธานี อลงกรณ์ ลงพื้นที่ เยี่ยมชมตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะ ยกเป็นโมเดลตลาดกลางสินค้าเกษตรอินทรีย์

ปทุมธานี อลงกรณ์ ลงพื้นที่ เยี่ยมชมตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะ ยกเป็นโมเดลตลาดกลางสินค้าเกษตรอินทรีย์

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 14 ก.พ.2566 ที่ตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ท้ายเกาะ ถนนปทุมธานี-เสนา ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน เดินทางเยี่ยมชมโครงการตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ท้ายเกาะและปาฐกถาพิเศษ “ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมยั่งยืนของประเทศไทย” โดยมีดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทยรองประธานสภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส แห่งประเทศไทย และอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นาย วิเชียร สวาทยานนท์ เจ้าของตลาดโรงเกลือท้ายเกาะ ร่วมให้การต้อนรับ

 

ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ นายกสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทยเปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า1ปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสนำความรู้ด้านการบริหารธุรกิจมาทำงานพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ผมเดินทางไปทั่วประเทศ พบปะกับพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์หน่วยงานภาคีต่างๆมากมาย สิ่งที่ผมเห็นคือ Gap หรือช่องว่าง ที่พี่น้องเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์แล้วเข้าไม่ถึงตลาด และผมเห็นความต้องการผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากผู้ประกอบการและผู้บริโภค แต่ก็สามารถเข้าถึงผลผลิตเกษตรอินทรีย์ได้น้อยมาก เกษตรกรทำอินทรีย์แล้วเข้าไม่ถึงมาตรฐาน ขาดความรู้การทำเกษตรอินทรีย์ที่เป็นวิทยาศาสตร์ ขาดความรู้ในการทำเกษตรอินทรีย์เชิงพาณิชย์ ขาดความรู้ที่จะแปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ขาดเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ขาดการจัดการเชื่อมโยงผลผลิตซึ่งพอมีอยู่อย่างกระจัดกระจายทั่วประเทศ ขาดศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าเกษตรอินทรีย์

 

 

โดยรวมแล้วความท้าทายหลักของเกษตรกร คือมีจุดอ่อน ในด้านการประกอบการ มีขีดจำกัดด้านการตลาด จึงได้เริ่มบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนแบบประชารัฐ นำไปสู่การลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง สู่เศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนตามแนวทางประชารัฐ” กับ 35 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 และต่อมาได้จัดตั้งกลไกวิสาหกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนห่วงโซ่เกษตรอินทรีย์ ในรูปของสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนจังหวัด และสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนการรับรองแปลงเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม หรือ PGS-Participatory Guarantee System ภายใต้แบรนด์ SDGSPGS และกลไกธุรกิจในแต่ละจังหวัดเพื่อจัดการผลผลิตจากแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองสู่ตลาด และต่อมาได้ยกระดับจัดตั้งเป็นสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืนไทย เพื่อการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในเครือข่ายที่กว้างขวางและมั่นคงขึ้น

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมสมาคมการค้าเกษตรกรรมยั่งยืน สภาเกษตรอินทรีย์ พี จี เอส แห่งประเทศไทย การมีตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะถือว่าเป็นต้นแบบของตลาดกลางอินทรีย์ของประเทศไทย ถือว่าเป็นสามโคกโมเดล เป็นความร่วมมือของภาคเอกชนภาครัฐและกลุ่มเกษตรกร ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรปลอดภัย ถือว่าเป็น 2 ใน 5 ยุทธศาสตร์ที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายไว้ และเกษตรอินทรีย์เป็น1ใน 5 สาขาของเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งตรงนี้ตอบโจทย์อนาคต ซึ่งเราส่งเสริมให้คนไทยกินอาหารเป็นยาไม่ใช่กินยาเป็นอาหารเพราะฉะนั้นเกษตรอินทรีย์เป็นคำตอบที่ดีสำหรับอนาคต โดยมีนโยบายส่งเสริมให้ทุกจังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร มีตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อน ซึ่งทุกวันนี้สินค้าเกษตรอินทรีย์กำลังเป็นเทรนที่ทั่วโลกกำลังนิยมหลังจากโรคโควิดระบาด คนก็กังวลเรื่องสุขภาพ การขับเคลื่อนตลาดเกษตรอินทรีย์ในวันนี้เป็นสัญญาณที่ดี ที่จะก่อให้เกิดตลาดอินทรีย์แบบยั่งยืนใน 77จังหวัด

ด้านคุณวิเชียร สวาทยานนท์ เปิดเผยว่า ตนเองมีความตั้งใจจะสร้างให้เกิดความเจริญขึ้นในชุมชน โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งรวมของสินค้า ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จนถึงระดับจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้เกิดรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนแก่ชุมชน เรามีความมั่นใจว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้ไม่ยาก เนื่องจากปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยมากมาย อาทิ เป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากเมืองที่มีกำลังซื้อสูงอย่างกรุงเทพฯ และเป็นเส้นทางผ่านไปยังจังหวัดต่างๆ มากมาย
ตลาดโรงเกลือท้ายเกาะให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์ให้กับร้านค้าในตลาด เพื่อโอกาสทางการค้าที่เท่าทันกับยุคสมัย และจะเริ่มรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้เป็นตลาดไร้เงินสด ด้วยการรับชำระค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภคผ่านระบบธุรกรรมออนไลน์ และตลาดกลางเกษตรอินทรีย์ (Organic World Thailand)แห่งนี้เกิดจาก ความร่วมมือกับสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนไทย ในการรวบรวมสินค้าเกษตรอินทรีย์จากเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร โดยจะเก็บค่าเช่า 1 บาท เป็นเวลา 24 เดือนสำหรับเกษตรกรที่นำสินค้ามาจำหน่ายสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานตลาดกลางอินทรีย์ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี