ปทุมธานี จับแล้ว วัยรุ่นหัวร้อนขับรถเก๋งพุ่งชนตำรวจอาสา ขณะเข้าห้ามปราม แฉพ่อไม่ได้เป็นนายตำรวจ
จากกรณีหนุ่มวัยรุ่นหัวร้อน พกปืนบุกหอพักเพื่อเคลียร์คู่อริ ถูกตำรวจอาสาไล่ให้ออกไป กลับไม่พอใจประกาศกูลูกตำรวจ ก่อนขับรถเก๋งไล่ชน แล้วหลบหนีไป สุดท้ายโดนตามรวบได้หน้าห้างดังย่านเมืองนนท์
วันที่ 10 ธ.ค. 61 พ.ต.ต.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกำลังชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันนำหมายจับ เดินทางเข้าจับกุมตัวนายธนิก พรหมบุตร หรือมาร์ค อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/72 ม.11 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี 934/2561 ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2561 ข้อหาพยายามฆ่า มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับตรวจยึดรถยนต์ฮอนด้ารุ่นแจ๊ส สีขาว สภาพแต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียน 7กภ-4674 กทม. จับกุมได้ที่หน้าห้างเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยจับกุมตัวได้ขณะที่นายธนิก นั่งอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวน
นายธนิก พรหมบุตร หรือมาร์ค อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้ไปนั่งดื่มสุราจนเมาไม่ได้นอน ก่อนที่จะขับรถยนต์มาจอดรถที่หอพัก และได้มาตะโกนเรียกคู่อริเก่าที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ที่พักอยู่ในหอพักดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่รปภ. ตำรวจอาสา จะเข้ามาห้ามปราม
ซึ่งตนเองไม่ได้ยิงขึ้นไปที่หอพัก แต่มีการนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ซื้อทางเว็บไซต์ขายปืนในราคา 10,000 บาท โดยมีเครื่องกระสุนติดมาด้วย แต่ไม่ได้บรรจุกระสุนในรังเพลิง โดยตำรวจอาสาได้เข้ามาเจรจา ซึ่งตนบอกให้ตำรวจอาสาโทรคุยกับพ่อตนเอง แต่ตำรวจอาสาได้ไล่ให้กลับบ้าน โดยบอกว่าที่บ้านบอกมา ตนเองจึงได้ขับรถพุ่งชนเพราะไม่พอใจตามคลิปที่ปรากฏ แล้วหลบหนีไปจนถูกจับกุม ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าไม่ได้อ้างว่าพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ และปัจจุบันพ่อก็เป็นเพียงผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.สามารถ เปาจีน สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก นายศิริชัย ผอบเหล็ก อายุ 31 ปี ตำรวจอาสาและรปภ.ประจำหอพักแห่งหนึ่ง ได้เข้าไประงับเหตุหลังมีวัยรุ่น ถือปืนเข้ามายิงในหอพักแห่งหนึ่งใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่มีการอ้างว่าเป็นลูกนายตำรวจใหญ่ กระทั่งมีการขับรถเก๋งพุ่งชนจำนวน 3 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ โดยสามารถบันทึกภาพวิดีโอตอนเกิดเหตุไว้ได้ ก่อนจะหลบหนีไปและสามารถตรวจยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไว้ได้ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 3 นัด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และหาชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ กระทั่งตามจับกุมไว้ได้ในที่สุด
