ปทุมธานี – 8 ตัวแทนเครือข่าย People Go Network Forum เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน
จากกรณี คสช.ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทางกฎหมายในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นความผิดตามหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ จำนวน 8 คน ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่าย People Go Network Forum ที่จัดกิจกรรม We Walk เดินมิตรภาพ
ทั้ง 8 คนประกอบด้วย นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์, นายอนุสรณ์ อุณโณ, นายนิมิตร์ เทียนอุดม, นายสมชาย กระจ่างแสง, น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา, นางนุชนารถ แท่นทอง, นายอุบล อยู่หว้า, และ นายจำนงค์ หนูพันธ์ นั้น
โดยในวันที่ 31 มกราคม 61 เวลา 13.00.น.ทางแกนนำทั้ง 8 คนได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง โดยมีกลุ่มเครือข่าย people Go Network Forum เดินทางมาร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก
ด้านอาจารย์เดชรัต สุขกำเหนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อ่านแถลงการต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวให้ครั้งนี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ทหารแจ้งความตัวแทนเครือข่าย People Go Network Forum ทั้ง 8 คนได้แก่นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์, นายอนุสรณ์ อุณโณ คณะบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา , นายนิมิตร์ เทียนอุดม, นายสมชาย กระจ่างแสง, น.ส.แสงศิริ ตรีมรรคา, นางนุชนารถ แท่นทอง, นายอุบล อยู่หว้า, และนายจำนงค์ หนูพันธ์ ในข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 ชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาต
“ถือเป็นการใช้ อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ มีลักษณะบิดเบือนใช้คำสั่ง ของคณะรัฐประหารพร่ำเพรื่อ แสดงถึงการลุแก่อำนาจ ปิดกั้นไม่ฟังเสียงความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ได้เข้ามาบริหารประเทศเป็นระยะเวลา 3ปี 8 เดือน ได้สร้างปัญหาความทุกข์ยาก ให้กับพี่น้องประชาชน ปิดกั้น ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นและมีนโยบาย ที่ซ้ำเติมความทุกข์ยาก ให้ทวีเข้มข้น รุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อประชาชนและนักวิชาการร่วมกัน จัดกิจกรรมเดินเพื่อบอกถึงปัญหา เพื่อให้กำลังใจพี่น้องคนในชาติ ที่กำลังเผชิญชะตากรรมเดียวกันโดยสงบสันติปราศจาก อาวุธ อีกทั้งยังไม่ได้กีดขวางการจราจร หรือสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายใดๆทว่า คสช.และรัฐบาล ไม่เพียงแต่ใช้กำลังตำรวจเข้าขัดขวาง หากแต่ยังคุกคามสกัดกั้น และแจ้งความเอาผิดแก่ประชาชน
อาจารย์เดชรัตกล่าวต่อว่า พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า”คสช. มิได้เข้ามาทำหน้าที่สร้าง ความปรองดองหรือคืนความสุขให้คนในชาติ ดังที่กล่าวอ้าง เพราะที่ผ่านมา นอกจากจะปฎิบัติหน้าที่ ไม่สำเร็จลุล่วง คสช. ยังสร้างปัญหาและความทุกข์ยาก ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง หัวหน้า คสช.ใช้คำพูดหมิ่นแคลนดูถูกศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ของประชาชน คนยากจนเกษตรกรชาวนา มีการใช้กำลังทหารตำรวจคุกคาม เสรีภาพการแสดงความคิดเห็น การทำมาหากินรวมทั้ง ลิดรอน แย่งยื้อสิทธิการเข้าถึง ทรัพยากรจากคนส่วนใหญ่ ไปให้ภาคธุรกิจเอกชน แสวงหาผลประโยชน์
และในกรณีกิจกรรม we wail เดินมิตรภาพ คือการใช้กำลังเข้าสกัดกั้น คุกคามสิทธิการเดินของประชาชน อันเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ได้มา โดยชอบจากการเกิดเป็นมนุษย์ ทั้งยังมีพฤติกรรมที่แสดงให้ เห็นว่าต้องการสืบทอดอำนาจทางการเมือง ต่อเนื่องยาวนานมีการเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้ว 4 ครั้ง พูดจาตระบัตสัตย์ การบริหารประเทศขาดความสง่างามไม่ได้รับความเคารพเชื่อถือ ในสายตานานาชาติ ทั้งยังผักภาระความรับผิดชอบ ให้กับองค์กรและหน่วยงาน อื่นตลอดมา
“เครือข่ายนักวิชาการ เพื่อสิทธิพลเมือง(คนส) ขอย้ำเตือน คสช. และรัฐบาลตลอดจนองค์กร ที่เกิดขึ้นและได้อำนาจมา จากการรัฐประหาร ให้ใคร่ครวญถึงภารกิจ ของตนและพฤติกรรมการบริหาร ประเทศที่ผ่านมาว่าได้ สร้างความสุขความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับประชาชนตามที่ได้กล่าวอ้างหรือไม่ รัญธรรมนูญฉบับ ประโกงที่ คสช. และรัฐบาล ร่วมกันผักดันซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 สามารถสร้างความ โปร่งใส มีผลปฏิบัติในการต่อต้าน ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้จริงตามที่กล่าวอ้างเพียงใด”
อาจารย์เดชรัตกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้เมื่อใดก็ตามที่ผู้นรัฐบาลำทหาร แสดงท่าทีต้องการสืบทอดอำนาจ เสียสัสจะวาจาและมองประชาชน เป็นศัตรู เมื่อนั้นสถานการณ์ มักจะจบลงด้วยความรุนแรง และนายกรัฐมนตรีต้องผลจากตำแหน่งไป ซึ่งไม่เพียงแต่ จะสร้างความเสื่อมเสียแก่เกียรติยศ ชื่อเสียงส่วนตนและวงศ์ตระกูล หากแต่ยังสร้างความเสื่อมเสีย แต่ศักดิ์ศรีและความเชื่อถือ ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อกองทัพ ต่อไปอีกยาวนานด้วย
คนส. และผู้มีรายชื่อแนบท้าย มีความห่วงใยในสถานการณ์ ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งอาจลุกลามไปสู่การลุกขึ้น มาทวงสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนักศึกษา อาจารย์ และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย เนื่องจากสถานการณ์ในครั้งนี้ มีแนวโน้มใกล้เคียงกับสถานการณ์ ความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เราจึงขอเสนอแนะต่อ คสช. และรัฐบาลดังต่อไปนี้
- หยุดคุกคามขัดขวางกิจกรรม we walk เดินมิตรภาพของ ประชาชนขอให้เคารพใน คำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครอง ชั่วคราวของศาลปกครอง และถอนการแจ้งความดำเนินคดี ผู้แทนเครือข่ายpeople Go NetWork ทั้ง 8 คนทันที
2.ขอให้เคารพหลักการตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยหยุดการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ที่มักจะอ้างอิงคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 เพราะไม่ควร มีอำนาจใดยิ่งใหญ่กว่า อำนาจตามรัฐธรรมนูญ
- รัฐบาลควรส่งตัวแทนมารับฟัง ความคิดเห็นปัญหาความทุกข์ยาก ของประชาชนที่ต้องการ จะบอกกล่าวร้องทุกข์ต่อรัฐบาล เพราะปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากนโยบาย มาตรการและการดำเนินการ ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสิ้น
4.หัวหน้า คสช. ควรทบทวน บทบาทของตนเองที่ผ่านมา ว่าได้ปฎิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนหรือไม่ ควรหยุดสร้างความสับสนเปลี่ยนแปลง ทิศทางของประเทศไปมา จนหาจุดยืนไม่ได้ ควรหยุดใช้คำพูดดูหมิ่นประชาชน สร้างความแตกแยกบั่นทอนความน่าเชื่อถือประเทศ โดยเฉพาะโฆษกรัฐบาล ต้องหยุดใช้คำพูดยั่วยุ ผักใส่ประชาชนให้กลายเป็น ผู้กระทำผิดและชวนให้เข้าใจว่าพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อ สืบทอดอำนาจ
คนส. ขอยืนยันในสิทธิเสรีภาพ ของการเดินการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมการตัดสินใจ ในความเป็นไปของบ้านเมือง ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของคนไทยทุกคนและ ขอเน้นย้ำ คสช. อีกครั้งว่าการคืนความสุขและ การสร้างความมั่งคั่ง ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และการเปิดกว้างให้ประชาชน ทุกระดับมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ กำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองเท่านั้น
จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางเข้าไปพบพนักงานสอบสวน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาติให้ทางผู้สื่อข่าวและบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเดินเข้าไปได้ ระหว่างรอกลุ่มผู้สนับสนุนได้นั่งร้องเพลงปรบมือเพื่อให้กำลังจทั้ง 8 คนอยู่ด้านนอก โดยเวลาประมาณ 17.00 น. ทางด้านตัวแทนเครือข่าย People Go Network Forum ทั้ง 8 คนได้เดินทางลงมาพร้องกับแบบมือชูให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ โดยเป็นมือที่เปื้อนหมึกในการพิมพ์ลายนิ้วมือ
ด้าน นายอนุสรณ์ อุณโณ คณะบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา กล่าวว่า วันนี้พวกตนได้เดินทางมาเข้าพบกับพนักงานสอบสวน ตามข้อหา ขัดคำสั่ง คสช . ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรสจได้แจ้งข้อหาให้กับทั้งคนทราบในห้องประชุม ก่อนที่จะทำการแยกสอบแต่ละคน โดยมีทนายความไปร่วมรับฟังด้วย จนเสร็จสิ้น และให้การปล่อยตัว
เพื่อให้รวบรวมเอกสารมาส่งในวันที่ 20 ก.พ. และจะทราบผลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสั่งฟ้องหรือไม่ในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้าม ให้พวกตนจัดกิจกรรม we walk ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: