ปทุมธานี หนุ่มใหญ่พร้อมภรรยา อุ้มลูกวัย 5 เดือน ร้องปวีณา ฉีดวัคซีนแล้วทำให้ขาอ่อนแรง
หนุ่มเมืองกาญจน์ร้องทุกข์ “ปวีณา” ลูกสาววัย 2 เดือนไปฉีดวัคซีนหลังกลับบ้านมาไม่นาน ขาซ้ายอ่อนแรงขยับได้ ตระเวนพารักษาไม่ได้ทำงานหาเงิน ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายค่าเดินทาง จนปัจจุบันลูกอายุ 6 เดือน อาการยังไม่ดีขึ้น ขอช่วยให้ความเป็นธรรม
วันอังคารที่ 9 ก.ค.62 เวลา 13.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รังสิต-นครนายก คลอง 7 ธัญบุรี ปทุมธานี นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ชาวอ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พร้อมภรรยาพาด.ญ.แดง (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 5 เดือนเศษ เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณีน้องแดงไปฉีดวัคซีนเข็มแรกและหยอดโปลิโอตอนอายุได้ 2 เดือนเศษ หลังกลับมาบ้านไม่กี่วันก็มีอาการขาซ้ายอ่อนแรงจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถยกขาซ้ายขึ้นหรือขยับขาได้เลย ผ่านมา 3 เดือนต้องวิ่งพาลูกไปรักษาหมดเงินค่าเดินทางจำนวนมากต้องเป็นหนี้เป็นสิน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมด้วย
นายเอก กล่าวว่า ตนกับภรรยาทำอาชีพเก็บของเก่าขาย มีลูกสาว 2 คน คนโตมีครอบครัวไปแล้ว ส่วนน้องแดงเป็นลูกคนเล็ก หลังคลอดตนต้องทำงานคนเดียวเพราะภรรยาต้องเลี้ยงลูก เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา น้องแดง อายุครบ 2 เดือน ตนได้พาลูกไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่งตามกำหนด เป็นวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ตับอักเสบ คอตีบ ไอกรน และหยอดวัคซีนป้องกันโปลิโอ เมื่อกลับมาบ้านก็ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ แต่พอผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ช่วงปลายเดือนมี.ค.เริ่มเห็นความผิดปกติว่าน้องแดงไม่ยกหรือขยับขาซ้ายเลย จึงได้พาลูกไปตรวจที่รพ.พหลพยุหเสนา เบื้องต้นแพทย์บอกว่า เด็กอาจจะยังเจ็บที่ขาซ้ายจากการฉีดวัคซีน จากนั้นก็นัดไปดูอาการอีกครั้งในวันที่ 3 เม.ย. แพทย์ก็แนะนำให้พยายามยกขาลูกบ่อยๆ ระหว่างนั้นน้องแดงมีอาการอักเสบจากฝีที่ก้นด้วย แพทย์จึงให้ยารักษาก่อนจะนัดมาดูอาการเรื่องขาและเรื่องฝีที่ก้นอีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย. พอถึงวันตนก็พาลูกไปรพ. แพทย์ได้ทำการอัลตร้าซาวน์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทั้งร่างกาย พร้อมกับสแกนสมองด้วย ช่วงนั้นต้องนอนรพ.ถึง 3 คืน เพื่อรอฟังผลและรักษาฝีที่ก้น
ข่าวน่าสนใจ:
หลังจากนั้นแพทย์รพ.พหลพยุหเสนา ก็ส่งตัวรักษาต่อที่รพ.ราชบุรี ช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. โดยมีการไปตรวจคลื่นไฟฟ้าที่ขาซ้ายทั้งท่อนบนและท่อนล่าง เบื้องต้นเรื่องขาซ้ายแพทย์บอกอาจจะเกี่ยวกับวัคซีนที่ฉีด ส่วนเรื่องฝีที่ก้นอาการดีขึ้นและแพทย์ได้นัดผ่าฝีอีกครั้ง จากนั้นทางรพ.ราชบุรี ก็ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.รามา กรุงเทพฯ ในวันที่ 7 พ.ค. แพทย์ทำการตรวจเบื้องต้น เจาะเลือดและพบแพทย์ และนัดไปพบแพทย์อีกครั้งวันที่ 21 มิ.ย. เพื่อทำการเจาะขากระตุ้นไฟฟ้าและพบกับแพทย์ศัลยกรรม แพทย์ระบบประสาท โดยแพทย์แจ้งว่าอาการของน้องแดงอาจจะเป็นเพราะเส้นประสาทช่วงไขสันหลังเริ่มเสื่อม ซึ่งอาจจะเกี่ยวกับวัคซีนที่หยอดเพื่อไปต้านโปลิโอแต่กลับมีผลไปกระตุ้นทำให้มีอาการดังกล่าว เป็นเช่นนี้ไม่มียารักษาต้องกายภาพบำบัดอย่างเดียว อาจจะดีขึ้นแต่ไม่หาย จากนั้นแพทย์ก็ยังนัดไปดูอาการต่อเนื่องอีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค.ที่จะถึงนี้
“ผมกับภรรยาก็เศร้าใจ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับลูกผมด้วย ปัจจุบันน้องแดงขาก็ลีบลงเรื่อยๆ ที่ผ่านมาต้องวิ่งพาลูกไปรักษาเข้าออกรพ.หลายต่อหลายหน มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางจำนวนมาก ผมไม่ได้ทำงานจึงขาดรายได้ ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเป็นค่าใช้จ่าย ทุกวันนี้ลำบากมาก หลังจากที่น้องแดงเป็นอย่างนี้ ผมเคยไปแจ้งให้ทางรพ.สต.ที่ไปฉีดวัคซีนทราบเรื่องและไปหาคำตาบอยู่ 2-3 หน ทางผอ.ก็บอกว่าไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ก่อนที่จะประสานไปยังรพ.ในอำเภอเพื่อให้ตนพาลูกไปทำกายภาพบำบัด แต่ผมก็ไม่สามารถพาลูกไปได้ทุกวันเพราะต้องทำงานหาเงิน โดยสัปดาห์หนึ่งก็จะไปประมาณ 3 วัน และก็ช่วยกันกับภรรยาทำเองที่บ้าน” นายเอก กล่าว
นายเอก กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางสาธารณสุขและนายอำเภอเดินทางมาเยี่ยมบ้าน แต่ตนไม่อยู่บ้านเพราะพาลูกไปฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 ที่อำเภอ โดยครั้งนี้ก็เป็นการฉีดกระตุ้นป้องกันบาดทะยักกับโปลิโอ ซึ่งตนได้แจ้งเรื่องให้แพทย์ทราบจึงได้เปลี่ยนวิธีการหยอดโปลิโอเป็นการฉีดแทน เมื่อกลับมาบ้านก็มีไข้ขึ้นไม่มากแล้วก็หาย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มาเยี่ยมบ้านเมื่อไม่เจอตนกับลูกก็เดินทางกลับไป ทั้งนี้ตนอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเยียวยา หาทางรักษาลูกของตนเพราะเสี่ยงที่โตมาจะต้องเป็นคนพิการ และเกรงว่าเรื่องของตนจะเงียบและถูกลืม และอยากทราบถึงสาเหตุที่ลูกเป็นเช่นนี้ จึงตัดสินใจเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวนายเอกได้มีการแจ้งมาทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สรรเสริญ แสงเนตรสว่าง ผกก.สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เพื่อให้นายเอกได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่นายเอกจะพาภรรยาและลูกน้อยเดินทางเข้าร้องทุกข์ด้วยตนเองในวันนี้
ซึ่งนายเอกได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมกับทางมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ขณะที่ไปพบ พ.ต.อ.สรรเสริญ ที่สภ.พนมทวน ได้มีนายอำเภอพนมทวน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดินทางมาพบตน พร้อมสอบถามข้อมูลต่างๆ และแจ้งว่าจะนำเรื่องดังกล่าวส่งให้สาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบอีกครั้ง และก่อนเดินทางกลับพ.ต.อ.สรรเสริญ เกิดความสงสารน้องแดงได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางให้ตนจำนวนหนึ่ง
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า กรณีของน้องแดงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยตรวจสอบหาสาเหตุให้ชัดเจน และให้ความช่วยเหลือรักษาโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามผลสรุปสาเหตุขาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นและช่วยเหลือให้ดีที่สุด เพราะหากรักษาไม่ได้ทันท่วงทีน้องแดงอาจจะต้องพิการไปตลอดชีวิต
ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็มีแม่คนหนึ่ง ชาวจ.ลพบุรี มาร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ว่า ลูกสาว 2 ขวบ ไปฉีดวัคซีนตามกำหนด ซึ่งขณะนั้นเด็กมีไข้อยู่แต่แพทย์ก็ฉีดวัคซีนให้ เมื่อกลับมาบ้านเกิดมีไข้ขึ้นสูงจนช็อกพาส่งรพ.แพทย์พยายามให้การช่วยเหลือแต่ก็เสียชีวิตในที่สุด ซึ่งยังต้องรอผลจากสถาบันนิติเวชว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางกระทรวงสาธารณสุขช่วยตรวจสอบเรื่องของน้องแดงและให้ความช่วยเหลือโดยด่วน พร้อมหาสาเหตุและแนวทางการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำรอยกับเด็กคนอื่นๆ อีก..
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: