X

มอบเมล็ดพันธุ์ ส่งเสริมการปลูกพืชในโรงเรือน (กางมุ้ง) ให้เกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ

ปทุมธานี  มอบเมล็ดพันธุ์ ส่งเสริมการปลูกพืชในโรงเรือน (กางมุ้ง) ให้เกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2562 ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี นายสมเดช คงกะพันธ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานีพร้อม เกษตรอำเภอ และเกษตรกรทั้ง 7 อำเภอ ในจังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมประชุมโครงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารงานส่งเสริมการเกษตร ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และส่งเสริมโครงการการปลูกพืชในโรงเรือน (กางมุ้ง) ให้เกษตรกร ในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอในจังหวัดปทุมธานีโดยแนะนำเทคนิคปลูกข้าว เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน ลดโลกร้อน แก่เกษตรกรในจังหวัดปทุมธานีใน โครงการ “ ไทย ไรซ์ นามา “


นายสมเดช คงกะพันธ์ เกษตรจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี มีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และศูนย์เครือข่าย เป็นแหล่งให้บริการทางการเกษตรและแหล่งถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีเกษตรกรต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่เห็นผลจริงให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ พัฒนาศักยภาพของ ศพก. หลักทั้ง 7 อำเภอให้ครอบคลุมทุกสาขาความรู้และเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร จากการวิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่และความเหมาะสมของการปลูกพืช
และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกร ทำการเกษตรตามรูปแบบของเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือการทำเกษตรแบบผสมผสาน ให้ทุกคนสามารถอยู่ได้ด้วนตนเอง พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ ผักบุ้ง ผักชี คะน้า ผักกาดกวางตุ้ง ผักกาดกวางตุ้งฮ่องเต้ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด ให้แก่ตัวแทนเกษตรกร ทั้ง 7 อำเภอนำไปปลูกในแปลงตัวอย่างโครงการโรงเรือนปลูกพืช (กางมุ้ง) ขนาด 6*20 เมตร จำนวน 24 หลังในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอ


สำหรับการปลูกผักกางมุ้งอินทรีย์นั้น การเตรียมดินก็ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากขั้นตอนหนึ่ง ดังนั้น จึงต้องมีการปรุงด้วยปุ๋ยคอกก่อน แล้วจึงนำดินไปตากให้แห้งเพื่อรอนำต้นกล้าที่เพาะมาลงต่อไป นอกจากดินแล้วเรื่องปุ๋ยก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง โดยปุ๋ยที่ใช้นั้นจะเป็นปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทางโครงการเป็นผู้ผลิตเอง ซึ่งการเลือกใช้ปุ๋ยที่ผลิตเองนอกจากจะเป็นการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแล้ว ยังถือเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมในโครงการอีกด้วย


สำหรับโครงการปลูกพืชในโรงเรือน (กางมุ้ง)นั้นนอกจากจะเป็นโครงการทีจังหวัดปทุมธานี สนับสนุนให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์เพื่อสร้างรายได้เสริมแล้ว ยังถือเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแปลงทดลองการทำเกษตรสำหรับชาวบ้านที่สนใจและผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำการเกษตรด้วย โดยโครงการนี้ไม่เพียงแค่ให้องค์ความรู้ในเรื่องการปลูกผักเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำปุ๋ยหมักชีวภาพและการเตรียมดินก่อนนำต้นกล้าลงปลูก เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับการเกษตรของตนเองได้อีกด้วย


และวันนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี ยังแนะนำเทคนิคปลูกข้าว เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน ลดโลกร้อน แก่เกษตรกรในจังหวัดปทุมธานีใน โครงการ “ ไทย ไรซ์ นามา “โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์ร่วม แก่เกษตรกรทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต และการทำนาแบบลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการผลิตข้าวที่ได้มาตรฐานการผลิตข้าว ที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจ การให้บริการเทคโนโลยีการลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และให้มีมาตรการจูงใจ ที่สนับสนุนให้ภาคการผลิตข้าวทั้งระบบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โดยเน้นย้ำว่า ถึงภาวะโลกร้อน ทุกคนต่างตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เดียวกัน เกษตรกรเป็นคนกลุ่มแรก ที่ได้รับผลกระทบจาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ในขณะเดียวกัน เกษตรกรเองก็สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้ การดำเนินงานภายใต้โครงการ ไทย ไรซ์ นามา ที่มีวัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ เทคโนโลยีการปรับระดับพื้นที่นา การจัดการน้ำในนาแบบเปียกสลับแห้ง การจัดการธาตุอาหารพืช และการใช้ปุ๋ย และการจัดการฟางและตอซังข้าว โดยการไถกลบตอซังข้าว แล้วปล่อยทิ้งไว้ 15 วัน ในสภาพดินแห้งถึงชื้น จึงเตรียมดินปลูกข้าว สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีในนาข้าวลงได้ในฤดูที่ 2 และฤดูต่อๆไป โดยข้าวให้ผลผลิตไม่แตกต่างกัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี