เชียงราย-เอาจริงรับสถานการณ์หมอกควัน เรียกนายอำเภอเชียงของและคณะฯ เข้าพบ รายงานสถานการณ์วิธีป้องกันการเกิดไฟป่า ขณะเดียวกันดาวเทียมตรวจพบจุดร้อนในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เว้นแม้จังหวัดใกล้เคียงแดงพรึ่ด ส่งผลกระทบเชียงรายใกล้วิกฤติสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายในปีนี้ แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่ยังเป็นที่น่าจับตามอง เมื่อสถานีตรวจวัดสภาพอากาศที่ อ.แม่สาย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm 2.5 ในห้วงระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา สูงสุดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สูงถึง 49 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบม.) ส่วนสถานีตรวจวัดที่ อ.เมือง พบว่าในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สูงถึง 48 มคก./ลบม. ซึ่งเหลืออีกเพียง 2-3 มคก./ลบม.ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก จังหวัดเชียงรายมีประสบการณ์ที่ได้เผชิญภาวะวิกฤติหมอกควันมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปี จึงทำให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันดำเนินมาตรการในการหาทางป้องกันจนประสบความสำเร็จ สามารถลดวิกฤติหมอกควันต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ติดต่อกัน ทั้งกำหนดมาตรการห้ามเผา ที่ประกาศมาก่อนหน้านี้กว่า 1 เดือนแล้ว มีการตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเฉพาะกิจดับไฟป่าในระดับหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสี่ยง การตั้งรางวัลให้แก่ตำบลพื้นที่เสี่ยงที่สามารถดูแลพื้นที่มิให้เกิดไฟป่าขึ้นได้ ดำเนินการร่วมทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดินทั้งฝั่งที่ติดกับชายแดนลาว และเมียนมา และรวมถึงมาตรการเรียกข้าราชการระดับสูงในระดับอำเภอ หัวหน้าหน่วยงานระดับตำบล เทศบาล อบต. ไม่เว้นแต่กำนัน และผู้ใหญ่บ้านเข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์และแผนในการดำเนินการห้ามเผาพื้นที่รับผิดชอบโดยเมื่อเวลา 14.50 น.วันที่ 19 กุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศได้ตรวจพบจุด Hotspots (จุดความร้อน) ในพื้นที่บ้านชัยพัฒนา หมู่ที่ 16 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เร่งเข้าพื้นที่เพื่อทำการดับไฟอย่างเร่งด่วน โดยมีรายงานเมื่อเวลา 16.00 น.ว่าสามารถควบคุมเพลิงและสามารถดับไฟได้สำเร็จอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว จังหวัดเชียงราย โดย นายณรงค์ โรจนสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ ชร.0021/006 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ให้ นายอำเภอเชียงของ พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.ในพื้นที่ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรายงานสถานการณ์ และแผนในการดำเนินการห้ามเผาพื้นที่รับผิดชอบ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย รายงานข่าวในเบื้องต้นแจ้งว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากคนที่ไปหาปลาบริเวณริมแม่น้ำอิง แล้วจุดไฟ ทำให้ไฟลุกลามไปยังที่สาธารณะและลุกลามเข้าไปยังสวนยางพาราของชาวบ้านจนลุกลาม และขณะนี้ได้ดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษมีรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 17.00 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 มีการเกิดไฟป่าขึ้นที่ บริเวณบ้านปงตองต้นห่าง หมู่ที่ 5 ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ส่งผลให้มีพื้นที่ป่าเสียหายไปประมาณ 2 ไร่ ซึ่งหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงราย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ร่วมกับ อบต.แม่จัน ได้ดำเนินการดับไฟได้เรียบร้อยแล้วเช่นกันสำหรับสถานการณ์ไฟป่าของพื้นที่ข้างเคียงใน พบว่า ภาพถ่ายจากดาวเทียมได้ตรวจพบจุดฮอตสปอต ในจังหวัดข้างเคียง และประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับจังหวัดเชียงราย เป็นจำนวนมาก โดยในพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตรวจพบจุดฮอตสปอตมากที่สุดถึง 119 จุด รองลงมาที่ จ.ลำปาง 83 จุด ส่วนที่จังหวัดน่าน กับ จ.พะเยา พบจุดฮอตสปอต 48 และ 13 จุด ตามลำดับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เชิญส่วนราชการ เอกชน สื่อมวลชน 50 คน เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนกระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจในชุมชน อย่างยั่งยืน
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: